บทสัมภาษณ์จาก Big Bang นิตยสารญี่ปุ่น 2

- จากที่พวกคุณได้เข้ามาสู่ ในวงการบันเทิงที่ญี่ปุ่นนี้ คุณคิดว่าสื่อของเกาหลี กับญี่ปุ่นต่างกันอย่างไรคะ?

ท๊อป: แรกๆ ผมแปลกใจทีเดียวครับ เพราะว่ามันต่างกันมาก ในเกาหลี การสัมภาษณ์


ในนิตยสารจะมีน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเน้นการสัมภาษณ์ทางสื่อโทรทัศน์มากกว่าครับ


แต่ที่ญี่ปุ่นนี้ จะเน้นการสัมภาษณ์ทางนิตยสารเสียส่วนใหญ่


จียง: ที่ญี่ปุ่นมีนิตยสารหลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็มีแบบฉบับเป็นของตัวเองดีครับ


แทยัง: ทางรายการทีวีก็ไม่เหมือนกันนะครับ  เกาหลีจะมี  รายการเพลงหลักๆ อยู่


3 ช่อง และก็จะออกอากาศแค่สัปดาห์ละครั้งเอง  แต่ที่ญีปุ่นนี่ มีรายการเพลงเยอะมาก


ซึงริ: ผมว่ารายการทีวีญี่ปุ่น มีรายการเฮฮาๆ เยอะดี ผมชอบมากเลย


- อ๋อค่ะ  เพราะว่าที่ญี่ปุ่นมีพิธีกรตลกๆ เยอะ นั่นแหละค่ะ


แทยัง: ใช่ครับ  พอพวกเค้าตั้งคำถามมาที่พวกเรา ผมรู้สึกเขินๆ ที่จะตอบทุกที


 -คนที่นี่เค้าอยากรู้เรื่องราวของศิลปินเยอะๆ น่ะค่ะ พิธีกรจึงต้องถามกันหลายคำถาม    แล้วชินกับการพูดภาษาญี่ปุ่นหรือยังคะ? 


ซึงริ: ก็ยังรู้สึกว่ายากอยู่ครับ แต่ว่าเวลาพูด ก็สนุกดีนะ


- แล้ว แฟนๆ ที่นี่เป็นอย่างไรบ้าง ต่างจากแฟนๆ เกาหลีมั๊ยคะ?


จียง: ไม่เหมือนกันเลยครับ ผมรู้สึกว่าที่ ญี่ปุ่นนี่จะมีแฟน ๆ หลายช่วงอายุครับ    ในเกาหลี แฟนๆ อายุจะประมาณ 10 ถึง 20 ปี ได้  แล้วผมประทับใจที่แฟนๆ ชาวญี่ปุ่นมีการแสดงออกที่สงบเงียบดีครับ  


แดซอง: ผมรู้สึกว่า คนญี่ปุ่น เค้าฟังเพลงกันอย่างตั้งใจจริงๆ ครับ       


แทยัง: ผมก็คิดเหมือนกันว่า แฟนๆ ที่นี่ จะเก็บรายละเอียด และคอยใส่ใจในเพลงกันน่ะครับ


แดซอง: แต่ก็มีแฟนๆ จำนวนไม่น้อยที่ เต้นตามได้ ร้องตามได้ เพิ่มขึ้นด้วยนะครับ


มันรู้สึกดีจริงๆ


  - แฟนๆ  ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงนะคะ


ซึงริ: ครับ สาวๆ ที่นี่ หลายคนชอบพวกเรา


- ไม่ใช่แค่สาวๆ หรอก  หนุ่มๆ ก็มี เค้าก็ชอบเพลงของพวกคุณ แต่อาจจะขี้อายซักหน่อย  บางทีก็ไปแอบเชียร์อยู่ด้านหลังๆ นู่น


ท๊อป: จริงอ่ะ  ผมดีใจจัง


- รู้สึกอย่างไรกับวัฒนธรรมของสาวญี่ปุ่น ? อย่าง แฟชั่น การแต่งหน้า


จียง: ผมไม่ค่อยรู้เรื่องของโลกของผู้หญิงซักเท่าไหร่นะครับ    แต่ว่า สาวญี่ปุ่น


จะสวยงาม และก็ดูอ่อนโยน แม้กระทั่งจะดูมีอายุแล้วก็ตาม    เอ่อ..ผม ควรพูดต่อดีมั๊ย?


คือ...ที่เกาหลี ถ้าคุณแต่งงานแล้ว หรือเป็นคุณแม่แล้วเนี่ย จะเลิกใส่ใจกับความสวยงามเลิกแต่งตัว แล้วหละครับ   (เริ่มปล่อยตัว...แฉสาวประเทศตัวเองซะงั้น)


- จียง กำลังเปิดเผยอะไรบางอย่างให้เรารู้หรือเปล่าเนี่ย


จียง: ผมรักญี่ปุ่นครับ      (แหม....ไม่ค่อยเลยนะ)


- ดีมากเลย


ท๊อป:ผมว่าการแต่งหน้า ก็ไม่ค่อยเหมือนกันนะครับ  ที่เกาหลีจะแต่งแบบบางๆ


ธรรมชาติๆ   แต่ที่ญี่ปุ่นนี่ แต่งกันหลากหลายมาก 


แทยัง: สาวๆที่นี่จะมีแฟชั่นที่เหมาะกับบุคลิกเฉพาะตัว ผมว่าเธอเหมือนตุ๊กตาเลย


- ตุ๊กตา? อ่อ เหมือนตุ๊กตาบาร์บี้หรือเปล่า?


แทยัง: ครับ  เขินๆ นะเนี่ยที่พูดเรื่องนี้ (หัวเราะ)


- งั้น  คุณประทับใจผู้หญิงที่ตรงไหน


ท๊อป:  หุ่นเป็นรูปตัว S อ่ะครับ


- โอ้ว  จริงอ่ะ รู้สึกแบบนี้หรอ?


ท๊อป:นี่ผมไม่ได้บ้านะ (หัวเราะ)  ที่เกาหลีสาวๆ ที่รูปร่างแบบนี้ก็จะถูกชมว่าดูดี สวยมากอ่ะครับ  ผมก็เป็นจำพวกที่ชอบชมเชยพวกเธอเหมือนกันนะครับ (น่านนนนน)


จียง: ผมชอบผู้หญิงที่ นิสัยดีและจริงใจ เข้าได้กับครอบครัว และเพื่อนผมได้ดีครับ


- งั้น คุณก็คิดว่า  ถ้าผู้หญิงที่มายืนตรงหน้าคุณทุกคน เฟคหรือเปล่า?


จียง: ผมก็ไม่ทราบนะครับ แบบว่า อย่างตอนที่ผู้หญิงเค้าอยู่ด้วยกัน


เค้าก็คุยกันดี  แต่พอพวกเธอมายืนอยู่ตรงหน้าผู้ชาย เธอก็จะปฏิบัติอีกอย่าง 


 (เค้าเขินย่ะ)


แดซอง:ผมชอบผู้หญิงที่ยิ้มสวย  แล้วก็ทำงานเก่งๆ ครับ


แทยัง:ผมไม่เน้นไปที่การแสดงออกของผู้หญิงนะครับ แต่ผมชอบผู้หญิงที่ชอบเรียนรู้ และชอบในความเป็นตัวของผมเองจริงๆ  แล้วก็ต้องเป็นคนรักสัตว์ เหมือนกับผมด้วยเพราะว่าผมเลี้ยงหมา  น้องหมาผมน่ะ มันไม่ชอบซึงริ เพราะว่า มันเห่าเค้าประจำเลย(หัวเราะ)


ซึงริ: ไม่ใช่เลย โกหกๆ   น้องหมาของพี่แทยังกับผมอ่ะเป็นเพื่อนกัน (หัวเราะ)


ผมชอบสาวที่เสียงน่ารักๆ หวานๆ แบบว่าถ้าวันไหนผมยุ่งไม่เจอกัน ผมก็จะได้โทรหา


เธอ  คงมีความสุขมากอ่ะ ถ้าได้ยินเสียงหวานๆ น่ารักๆ น่ะครับ 


เอ่อ....คุณจะว่าอะไรมั๊ย  ครับถ้าผมจะถามอะไรคุณ?


- ไม่ว่าค่ะ ถามมาได้เลยค่ะ?


ซึงริ:Anan (ชื่อนิตยาสารเล่มนี้)  ส่วนใหญ่คนอ่าน อายุประมาณไหนฮะแล้วคนอ่านเค้าชอบ หนุ่มอายุน้อยกว่าหรือแก่กว่าอ่ะครับ ?


-ในญี่ปุ่น สาวๆ จะชอบหนุ่ม ที่อายุน้อยกว่าค่ะ เป็นที่นิยมมากเลยหละ


ซึงริ: จริงดิ~  งั้นผมก็เด็กกว่า~


- คุณยังเด็กมากสำหรับ การแต่งงาน  จะถามสั้นๆว่า สมาชิกคนไหนที่มีแววว่าจะได้แต่งงานเร็วที่สุด


แทยัง: แดซอง ชัวร์


ท๊อป:ผมว่าแดซอง จะแต่งในปีนี้หละครับ  (OH~ NO!)


- จริงอ่ะ งั้นขอประกาศเลยได้มั๊ย?


แดซอง: จริงครับ,ผมกำลังจะแต่งภายในปีนี้ละครับ (หัวเราะ)  วันเกิดผมเดือนเมษายน  แล้วก็จะแต่งงานเมื่อผม 26 เนี่ยแหละ


- อ่า...มันเป็นความปรารถนานี่เอง  แต่ว่า คุณแน่ใจแล้วหรอ เพราะต้องมีหลายคนแน่เลยที่ต้องเศร้ากับเรื่องนี้น่ะ?


แดซอง: งั้น... ถ้าเลยวันนั้นไปแล้ว พอผม 27 แล้วยังหาใครไม่ได้  ผมก็จะแต่งงานกับใครก็ได้ ที่เดินเจ๊อะกันที่ข้างถนนดีมั๊ยครับ?  (หัวเราะ)   (555555555+ ถนนไหนบอกมาจะไปยืนรอ


งั้น ถ้าอยากแต่งงาน  เจ้าสาวเป็นสาวญี่ปุ่น ?


แดซอง: แน่นอน  สาวญี่ปุ่นก็ดีนะครับ


- ไม่นะ  สาวญี่ปุ่นเนี่ยน่ากลัวนะ ถ้าโกรธขึ้นมาละก้อ!


แดซอง: จริงอ่ะ? ผมยังไม่เห็นเคยเจอเลยนะ  เคยเจอแต่ น่ารักๆเห็นคู่หนุ่มสาว เค้าหวานๆ กันจะตายอ่ะ


จียง: ผมก็จะแต่งงานในเร็วๆนี้เหมือนกันครับ           (มาเชียว...)


- แปลกใจจังค่ะ!  ภาพลัษณ์ของเค้าเนี่ย ดูเหมือนผู้ชายที่อยากแต่งงานช้าๆ เลยนะคะ


จียง: ผมเคยพูดบ่อยๆ ครับว่า ผมอยากจะหาใครซักคนที่จะรัก และแต่งงานด้วย และก็จะเป็นครอบครัวเดียวกัน         (จะรีบไปหนายยยย)


- อย่างนี้แฟนๆ ต้องช๊อคกันเป็นแถวๆ เลยนะคะ


ท๊อป: ส่วนผมเนี่ยแหละ อยากจะแต่งช้าๆ เพราะว่าผมยังรักชีวิตอิสระยังอยากใช้ชีวิตสบายๆ คนเดียวๆ อยู่กับตัวเองไปนานๆ  ผมว่าน่าจะซัก อายุ 40 อ่ะ ค่อยแต่ง  แต่ว่านะ ถ้าผมเจอใครที่ใช่ ไม่แน่นะ... ผมอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้ ผมจะแต่งกับเธอตอนนี้เลย        (แหมมมมมมม)
แดซอง: อ่า ใช่เลย~
แทยัง: ผมก็อยากแต่งงานช้าๆ เหมือนกันนะ   ถึงผมจะไม่ใช่คนดื่มเหล้าไม่ใช่คนสูบบุหรี่ ถึงจะดูเหมาะที่สุดแล้วว่าน่าจะเป็นคนที่ต้องแต่งงานเร็วที่สุดแต่ว่า ผมคิดว่าผมไม่อ่ะ.....                           


- แล้วใครน่าจะเป็นคนที่ได้แต่งงานเป็นคนสุดท้าย?


แทยัง: ซึงริ ชัวร์ (หัวเราะ)
ซึงริ: ถูกต้อง  ผมยังไม่เคยคิดถึงเรื่องแต่งงานเลยครับ!


- ได้ยินมาว่า ผู้ชายเกาหลี โรแมนติคมาก   โดยเฉพาะ เรื่องการขอแต่งงาน   แล้วถ้าพวกคุณจะขอเธอแต่งงาน จะทำแบบไหนให้ประทับใจ


ที่สุด?


ซึงริ: ผมจะพาเธอไปโดดร่ม แล้วก็ขอเธอแต่งงานกลางอากาศ แต่ถ้าเธอปฏิเสธ ผมก็จะกระชากร่มชูชีพแล้วก็พาเธอไปด้วย ดีมั๊ยครับ?   ( - - “)ช่างคิด...555+


แทยัง: นั่นมันเข้าข่ายคุกคามแล้ว (หัวเราะ)   ,  สำหรับผม ดีที่สุดก็น่าจะเป็น เล่นเปียโนให้เธอฟัง แล้วก็ร้องเพลงขอแต่งงานเลย


—Wow~ Nice.


แทยัง: แต่ผมก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยนะเนี่ย คิดได้สดๆ ร้อนๆ เลยจริงๆ ก็น่าจะยากอยู่นะผมว่า.. 


-  ยังไม่เก่งภาษาญี่ปุ่นกันใช่มั๊ย แล้วยังเรียนกันอยู่หรืเปล่า?


จียง: ที่เกาหลีเวลาเจอนักร้องต่างประเทศ เข้ามาพูดคุยด้วยภาษาเกาหลีผมรู้สึกมีความสุขจัง  เพราะงั้นพวกเราจึงต้องการเรียนภาษาญี่ปุ่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะว่าพวกเราอยากจะร้องเพลงภาษาญี่ปุ่น และก็พูดกับคนญี่ปุ่นให้มากๆ ขึ้นด้วยครับ  


- มีวลีภาษาญี่ปุ่นที่ชอบๆ มั๊ย?


ซึงริ: “เก็งคิเดสสึกะ!(สบายดีมั๊ย) ชอบเป็นการส่วนตัวเลยครับ,  ผมศึกษามาจากซีรีย์ญี่ปุ่นที่ผมดูอ่ะ   


-เพลง Let Me Hear Your Voice ที่ใช้เป็นเพลงธีมของซีรีย์   รู้มั๊ยว่าคาแล็คเตอร์หลัก ในเรื่อง ทำให้ พวกสาวโสดหลายคน อย่างชั้นเนี่ยรู้สึกเหมือนเป็นตัวเองเลย
ซึงริ: คุณยังโสดหรือครับ?

- ใช่,ชั้นต้องทำอะไรทุกอย่างคนเดียว เหมือนกับนางเอกในซีรีย์นั่นแหละ


แทยัง: ว้าว, งั้นคุณก็ไปดูหนังคนเดียวน่ะสิ


ซึงริ: หรือไม่ก็ออกกำลังคนเดียวที่บ้าน

- ค่ะ,อาจจะเล่นโยคะบ้างบางที...
แดซอง: แล้วทานข้าวล่ะครับ?คุณก็ต้องทานอาหารเย็นคนเดียวหรอครับ??

- อืม,  ใช่จ้ะ..
ซึงริ: ทำไมล่ะ~?  


แล้วที่เกาหลีไม่มีสาวโสด หรือคะ?  หรือว่าได้แต่งงานกันหมด
แทยัง: ผมว่าตอนนี้ สาวโสดที่เกาหลีก็มีเพิ่มขึ้นเหมือนกันนะครับ  มีหลายคนที่ทำแต่งาน  จนมีแนวโน้วที่จะได้แต่งงานช้าอ่ะครับ 


- จริงหรอ!  ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็ค่อยอุ่นใจ หน่อยน้า    (ทางนี้ก็มีค่ะคุณขรา~)เปลี่ยนเรื่องดีกว่า,  สาวๆ ญี่ปุ่นก็ยังตั้งหน้าตั้งตาคอยกิจกรรมของคุณในญี่ปุ่นปีนี้ด้วยนะ  


จียง: พวกเรากำลังจะมีทัวร์ที่ญี่ปุ่นในเดือนก.พ.นี้นะครับ      (หลายรอบด้วย..อิจฉา) 


แทยัง:เป็นคอนเสริ์ตแรก ตั้งแต่แดซองประสบอุบัติเหตุเมื่อปีที่แล้วพวกเราก็ตั้งหน้าตั้งตารออยู่เหมือนกัน
แดซอง: ตอนนี้ผมสบายดีแล้วนะ! ผมได้พักอย่างเพียงพอที่โรงพยาบาลแล้ว  ผมมีความสุขมากเลยนะ ตอนที่ ซึงริไปเยี่ยมผมอ่ะ เค้ารีบมาหาผมทันที หลังจากที่เค้าแสดงละครเวทีรอบแรกจบอ่ะ   
ท๊อป: คือมันรู้สึกเหมือนพวกเราอ่อนแอลงเลยครับ ยามเมื่อไม่มีเค้าอยู่กับพวกเราแต่ตอนนี้รู้สึกถึงพลังของพวกเราแข็งแกร่งขึ้นตั้งแต่เค้ากลับมา
จียง:  ใช่เลยครับ

- ใครจะมีงานเดี่ยวในปีนี้บ้างล่ะ?
แทยัง:ผมจะออกอัลบั้มเดี่ยวในไม่ช้านี้ฮะ ผมทำอัลบั้มนี้มานานแล้วหละ รอพร้อมอย่าง เดียวเลย
 


ท๊อป: แดซองกับ ผม มีแผนที่จะออกอัลบั้มเดี่ยวเหมือนกันครับ 


จียง: ปีนี้ พวกเราก็จะมีอัลบั้ม ของ บิ๊กแบงเองด้วยเช่นกัน  ดังนั้นช่วยติดตามพวกเราด้วยนะครับ



ซึงริ: ส่วนผมกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้หละครับ และผมก็จะสวมแว่นตา เรียนหนังสือด้วย

- แว่นตา? ทำไมล่ะ?
ซึงริ: ก็มันทำให้ดูฉลาด~ แล้วผมก็ยังทำงานด้านละครเวทีต่อไปด้วย  ตอนที่ผมพบกับ


คุณ มิยาโมโตะ อามอน (Musical Actor and Director), เค้าพูดกับผมว่า


แสดงบนเวทีละครของผมซักครั้งนะ”.



แทยัง:มันผ่านมาเป็นปีแล้วนะครับ ซึงริเค้าพูดเกินจริงไปอย่างงั้นแหละครับ


อย่าเขียนลงเลยครับ   มันน่าอายฮะ (หัวเราะ)                ( เบ้ รังแกน้องงงง 555+ )



-เดี๋ยวสิ. มิยาโมโตะ  อามอน เค้าอาจจะอ่านก็ได้นะ   


ซึงริ: ( TAT ) 


 


 




ปีทอง ของพวกคุณ ! 
 


จียง: Mastering Japanese!



แทยัง: ปี 2010 เป็นปีทอง เหมือนกับ ปี 2009 ครับ แต่ผมต้องการเรียนรู้ และมี ประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่กว่านี้เท่าที่จะทำได้    ในระหว่างปี 2009 ผมกังวลมากว่า ปีหน้า จะเป็นยังไงนะ   ในปี 2010 ผมต้องการให้เป็นปีที่ดีกว่านี้ยิ่งใหญ่กว่า เมื่อถึงตรงนั้น พวกเราจึงสามารถที่จะหัวเราะได้ และสนุกไปกับมันได้


ท๊อป:ประสบความสำเร็จ ในมหาวิทยาลัย     (หมายถึงจะจบปริญญาหรือเปล่า ไม่แน่ใจอ่ะ)


แดซอง: มีเพลงดีๆ เพราะๆ ให้คุณๆ ฟังครับ  และก็ ผมจะเผยอีกด้านหนึ่งให้พวกคุณได้ เห็น!!!



ซึงริ: ในปี 2010  ผมจะพิสูจน์ตัวเองให้เห็นว่าผม เป็น นักแสดงละครเวทีคนหนึ่ง และ ผมก็จะแสดงให้เห็นความสามารถที่ล้นเหลือให้พวกคุณได้เห็น และผมก็จะ เป็น นักศึกษาที่ดีที่สุดให้ได้ครับ!! 


  ขอบคุณ www.bbviplover.exteen.com



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์