คุยเรื่องรักกับซึงรีBIGBANG

 แม้จะเห็นเป็นน้องเล็ก แห่งวง บิ๊กแบง  แต่ประสบการณ์เรื่องความรักของ ซึงรี ก็ท่าจะมีมากเสีย จนเจ้าตัวสามารถเอามาถ่ายทอดลงบทเพลง

ในมินิอัลบั้มเดี่ยวชุดที่สองของตัวเอง ในชื่อผลงานว่า “Let’s Talk About Love” ซึ่งนอกจากจะเป็นผลงานที่แสดงให้เห็นการเติบโตทางด้านความคิดแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการฝีมือทางด้านดนตรีของ ซึงรี ที่ขยับจากการเป็นนักร้องธรรมดา  มานั่งเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับอัลบั้มของตัวเองเป็นครั้งแรกอีกด้วย


@ ได้กลับมายืนอยู่บนเวทีอีกครั้ง หลังจากหายไป 2 ปี 7เดือน รู้สึกอย่างไรบ้าง

          ซึงรี : “รู้สึกดีที่ได้กลับมาออกผลงาน ที่ประเทศบ้านเกิดตัวเองอีกครั้งครับ  ตอนนี้ก็กำลังปรับตัวให้ชินกับการทำกิจกรรมโปรโมทที่นี่(เกาหลี) อยู่  เพราะว่าหายไปทำกิจกรรมโปรโมทที่ต่างประเทศซะนาน จนแทบจะลืมบรรยากาศการทำงานที่เกาหลีไปหมดแล้ว”

@ ทำไมถึงเป็น “Let’s Talk About Love” ต้องการจะสื่ออะไรถึงแฟนเพลง
        
       ซึงรี : “ผมอยากจะสื่อให้เห็น ถึงอารมณ์ต่างๆของผู้ชาย ที่กำลังมีความรักครับ  ไม่ใช่แค่เฉพาะด้านเดียวเท่านั้น  แต่เป็นอารมณ์ในทุกๆด้านของความรัก ที่มีทั้ง สุขสม, ผิดหวัง, ตื่นเต้น, จากลา และอาลัยครับ ”

@ อัลบั้มชุดนี้ เป็นครั้งแรกที่คุณได้เป็นโปรดิวเซอร์เต็มตัว เทียบกับเมื่อตอนที่มีหน้าที่ร้องเพลงอย่างเดียวแล้ว มีความแตกต่างกันอย่างไร

          ซึงรี : “ผมรู้สึกกดดันมาก เพราะเป็นครั้งแรก แต่ก็ให้กำลังใจตัวเองเสมอครับ ว่าต้องทำได้แน่ หากเอาประสบการณ์ที่มีมากว่า 7 ปี กับบิ๊กแบงมาประยุกต์ใช้  สำหรับผมแล้ว หน้าที่โปรดิวเซอร์เป็นหน้าที่ ที่ต้องรับผิดชอบทุกอย่างในอัลบั้ม ไม่ใช่แค่เฉพาะเรื่องเพลง  แต่ในเรื่องของมิวสิควีดีโอ, ภาพปก, ภาพโปรโมท หรือแม้แต่วัสดุที่ใช้ในการผลิตออกมาเป็นอัลบั้ม ล้วนแต่ต้องอาศัยโปรดิวเซอร์เข้ามามีส่วนร่วมด้วยทั้งนั้น ”

@ ทันทีที่ทีเซอร์ “Let’s Talk About Love” ออกมา ก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ทันที  ในฐานะโปรดิวเซอร์ของอัลบั้ม  คิดอย่างไรที่ตัดสินใจทำทีเซอร์เรทอาร์ 19+

          ซึงรี : “เรื่องจริงที่ต้องยอมรับ ก็คือ ไม่ว่าเพลงจะดีแค่ไหน หากขาดการโปรโมทที่ดีแล้ว ก็ไม่สามารถจะประสบความสำเร็จได้   และเพราะเป็นผลงานชิ้นแรกหลังจากที่หายไป 2 ปีกว่าๆ ผมเลยตั้งใจสร้างประเด็นร้อนขึ้นมา เพื่อให้เป็นที่สนใจของแฟนเพลง  หลังจากที่คุยปรึกษากับเหล่าทีมงานแล้ว  เราจึงได้ข้อสรุปออกมาเป็่นทีเซอร์เรทอาร์นี่แหละครับ”

@ ทราบมาว่า จีดราก้อน และ แทยัง ก็มีส่วนร่วมในเพลง “Let’s Talk About Love” ด้วยเช่นเดียวกัน ใช่หรือไม่

          ซึงรี : “ใช่ครับ  เพราะทั้งสองคน มีกำหนดการจะออกผลงานเดี่ยว ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันกับผม ก็เลยทำให้เราเจอกันที่ห้องอัดบ่อยๆ  ผมจึงมีโอกาสได้ปรึกษาเรื่องงานเพลงกับพี่ๆหลายครั้ง และก็ขอให้ทั้งคู่มาช่วยร้องเพลงนี้ด้วยกันครับ ”

@ จีดราก้อนเอง ก็จะออกอัลบั้มเดี่ยวเร็วๆนี้เช่นกัน  ไม่คิดว่าคุณทั้งสองคนเป็นคู่แข่งกันบ้างหรือ

          ซึงรี : “สำหรับเราแล้ว ผมไม่คิดว่ามันคือการแข่งขัน แม้เราจะออกผลงานเดี่ยว  แต่เราก็ยังคงเป็น ซึงรี และจีดราก้อนแห่งวงบิ๊กแบง  ถ้าผลงานของเรา ได้กระแสตอบรับดี มันก็ส่งผลดีต่อภาพรวมของวงบิ๊กแบงเช่นเดียวกัน ”

@ เทียบกับสมาชิกคนอื่นๆแล้ว ผลงานของคุณมีแนวดนตรีที่ค่อนข้างแตกต่างออกไป ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น
         
          ซึงรี : “ผมคิดว่าผมเป็นคนเดียวในวง ที่ชอบทำดนตรีในแนวป็อปมากกว่าที่จะเป็นฮิปฮอป  เพราะโดยส่วนตัวคิดว่าป็อปเป็นดนตรี ที่ทุกคน ทุกวัย สามารถเข้าถึงได้ง่าย   ผมถนัดที่จะทำดนตรีในแนวที่อยากให้แฟนเพลงได้ฟัง มากกว่าจะทำดนตรีในแนวที่ตัวเองชอบครับ”
    
          อาจจะมีแนวคิดที่แปลกๆใหม่ๆ ไม่ค่อยจะเหมือนใครไปบ้าง  แต่ทุกคนก็เข้าใจ เพราะรู้ดีว่าเป็น ซึงรี  อย่างไรก็ขอให้ผลงานเดี่ยวของ ซึงรี เองประสบความสำเร็จ ไม่แพ้ผลงานชุดก่อนๆล่ะกันจ้า

คุยเรื่องรักกับซึงรีBIGBANG


ซึงรี BIGBANGซึงรี BIGBANG


ซึงรี BIGBANGซึงรี BIGBANG


ซึงรี BIGBANGซึงรี BIGBANG


ซึงรี BIGBANGซึงรี BIGBANG


ซึงรี BIGBANGซึงรี BIGBANG


ซึงรี BIGBANGซึงรี BIGBANG

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์