ประวัติวง X-JAPAN จ้า ♥~

ประวัติวงX-Japan
 
แต่เดิมสมาชิกของ X นั้น นอกจาก TOSHI กับ YOSHIKI แล้ว สมาชิกคนอื่นจะเป็นสมาชิกขาจรทั้งนั้น ในตอนนั้น X มีสมาชิกคือ YOSHIKI (DRUM), TOSHI (VOCAL), YUJI (GUITAR), TOMO (GUITAR), TOKUO (BASS)
- มิถุนายน ออกผลงานชิ้นแรกคือ SINGLE: I'LL KILL YOU จัดจำหน่ายโดย DADA RECORD ซึ่งเพลงนี้ก็ยังคงเป็นเพลงเด่นที่ใช้ในการแสดง CONCERT หน้าปกมี PEACE MARK อยู่ตรงกลางและรอบๆ ก็มีรูปของสมาชิกตัดแปะไว้ เป็นปก ALBUM ที่ดึงดูดใจมาก แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ปัจจุบันไม่สามารถหา ALBUM นี้ได้อีกแล้ว
- กรกฎาคม ทำเพลง 1 เพลง ใน OMNIBUS ชุด ALBUM HEAVY METAL FORCE 3 ของค่าย EXPLOSION LEVEL ถือว่าเป็นการเข้าร่วมงานกับ MAJOR เป็นครั้งแรก

<< ---------- 1 9 8 6 ---------- >>

 

1986 X ได้สมาชิกใหม่ คือ TAIJI เข้าร่วมวง ในตำแหน่ง BASS จากนั้นก็เริ่มแสดงอย่างจริงจังยิ่งขึ้น ความดุเดือดบนเวทีก็มีมากขึ้น พวกเขาทำลายของมากมายและบ่อยครั้งในขณะที่พวกเขาแสดง ถึงขนาดทะเลาะกับคนดูตอนเล่นเพลงอยู่ก็มี แถมยังอาละวาดบนเวทีทำให้ได้ชื่อว่าเป็นวงมหัศจรรย์ แม้แต่ HIDE ที่เคยดู CONCERT ในฐานะคนดู ยังบอกว่า "เหมือนปิศาจอาละวาด" เพราะมีการโยนกีตาร์ ทำลายกลองชุด พังทลายทั้งหมด
- เมษายน ออกผลงานชิ้นที่ 2 คือ SINGLE: ORGASM จัดจำหน่ายโดย INDIES LABEL EXTASY RECORD ที่ YOSHIKI เป็นผู้ก่อตั้ง มีนโยบายที่ YOSHIKI และเพื่อนๆ ริเริ่มว่า "อยากทำอะไรในแบบที่ตัวเองชอบ" ทุกอย่างจึงทำด้วยมือของเขาเอง เขาจะลองผิดลองถูก คิดว่า CD เทป และลงโฆษณา ควรจะทำยังไง พวกเขาเรียนรู้สิ่งเหล่านี้จนถึงการ PACK ใส่ถุงส่งก็ทำกันเอง โฆษณาแปลกๆ ก็มาจากฝีมือของสมาชิกเอง สมาชิกตอนที่ออก SINGLE: ORGASM มี 4 คน คือ YOSHIKI (DRUM), TOSHI (VOCAL), JUN (GUITAR), HIKARU (BASS) ช่วงนั้น TAIJI ออกจากวงไปชั่วคราว ปก ALBUM เป็นรูปสมาชิกทั้ง 4 ย้อมผมสีทองและตั้งผมขึ้น สวมชุดหนังที่มีตะปูตัวใหญ่ๆ ตอกอยู่ TOSHI ยังเคยพูดว่า "ใส่ชุดเหมือนกัมดั้มเลย" เขาคงจะหมายถึงเสื้อผ้าแบบนี้แน่นอน หน้า A เพลงแรก คือ "ORGASM" เพลงที่ 2 คือ "TIME TRIP LOVING" (นักวิจารณ์เพลงของนิตยสารฉบับหนึ่งกล่าวว่า "เป็นเพลงที่ใกล้เคียง AMARICAN STYLE เป็นเพลง POP ที่มีจังหวะปานกลาง") และเพลงแรกหน้า B คือ "X"

<< ---------- 1 9 8 7 ---------- >>

 

- กุมภาพันธ์ หลังจาก TAIJI กลับมา สมาชิกหลักทั้ง 3 ก็เข้าร่วมผลงาน OMNIBUS ALBUM ชุด SKULL TRASH ZONE จัดจำหน่ายโดย VICTOR เมื่อ 3 คนรวมตัวกันได้ดีจึงต้องหานักกีตาร์สำหรับอัดแผ่น และผู้ที่ YOSHIKI เลือกคือ PATA ในฐานะนักกีตาร์ผู้ช่วย ซึ่งรู้จักกันเมื่อ 1 ปีก่อน หลังจากที่เข้าวงการ X ก็ยังเปิดการแสดงสดต่อไปและอัดเพลง STAB ME IN THE BACK และ NO CONNEXION หลังจากนั้น X ก็ได้รับ HIDE และ ISAMU อดีตสมาชิกวง SABER TIGER มาร่วมวงอย่างเป็นทางการ จึงพูดได้ว่าเป็นวงที่มีนักกีตาร์ 2 คน ที่จริง HIDE กับ YOSHIKI รู้จักกันมานานแล้ว เพราะ TOSHI กับ YOSHIKI เคยไปดูการแสดงของวง SABER TIGER ทำให้เกิดความประทับใจในความเท่ห์ของ HIDE และมั่นใจว่า "เขาเป็นคนที่เกิดมาเพื่อเป็นนักกีตาร์ของ X" ช่วงนั้น SABER TIGER ดังกว่าวงของ X หลายเท่า จึงไม่อยู่ในสถานะที่จะดึงตัว HIDE มาร่วมได้ แต่ TOSHI กับ YOSHIKI สาบานว่า "ต้องทำให้ X ดังยิ่งขึ้น แล้วดึงตัวเขามาร่วมให้ได้" และเมื่อได้ HIDE มาร่วมวงด้วยจึงทำให้จัดการแสดงมากยิ่งขึ้น แต่หลังจากนั้น ISAMU ก็ประสบอุบัติเหตุต้องเข้าโรงพยาบาล จึงขอให้ PATA มาช่วยอีกครั้ง พอเล่น LIVE ไปหลายๆ ครั้งเข้า PATA ก็กลายเป็นคนที่ขาดไม่ได้สำหรับ X ไป
- ต้นปี 1987 X ได้สมาชิกที่ลงตัว คือ YOSHIKI (DRUM), TOSHI (VOCAL), TAIJI (BASS), HIDE (GUITAR), PATA (GUITAR) พวกเขาเล่น LIVE หลายต่อหลายแห่ง พร้อมๆ กับทำดนตรีของวงให้แน่น และเริ่มทำ VDO: X CLAMATION มี 3 เพลง คือ XCLAMATION, STAB ME IN THE BACK, KURENAI ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงพลังอันมหาศาลของพวกเขาในตอนนั้น สำหรับแฟนๆ เพื่อจะได้รู้จัก X VDO นั้นนอกจากพวกเขาจะทำเองแล้ว ยังแจกให้แฟนๆ ฟรีๆ ที่มาชม CONCERT นอกจากแฟนเพลงแล้ว ยังแจกให้วงการเพลงอีก 100 ม้วน การแจก VDO เป็นข่าวดังไปทั่ว ทำให้ชื่อเสียงของวงเป็นที่รู้จักขึ้น มีคนมารอดู CONCERT ที่ บาเบิ้ลเฮ้าส์ ที่ OZAKA ถึง 530 คน ความคิดนี้จะต้องเกิดตอนที่พวกเขาคุยล้อเล่นกันขณะเมาแน่นอน ในตอนนั้นพวกเขาไม่มีสำนักงานและบริษัทแผ่นเสียวงที่สังกัดอยู่ ค่าใช้จ่ายจึงต้องออกกันเอง สมาชิกทุกคนพอได้รับคำสั่งว่า "พรุ่งนี้เอาเงินมาคนละ 2 แสนเยน" ทุกคนก็รีบไปหาเงินกันใหญ่ นอกจากแสดง CONCERT แล้ว พวกเขายังรับ JOB เล็กๆ น้อยๆ อีกด้วย ผลงานชิ้นนั้นไม่เป็นที่แพร่หลายนัก เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีใครรู้เลยก็ว่าได้ งานนั้นคือ การเล่นเป็นตัวประกอบหนังเรื่อง "TOKYO POP" เพียงฉากเดียว ON AIR ไม่ถึง 10 นาที HIDE เคยพูดไว้ว่า "กิจกรรมของ X ในช่วงนั้นตั้งใจจะออก TV เพื่อการ PROMOTE แต่ไม่ค่อยได้รับการต้อนรับเท่าไหร่ ในช่วงนั้นมีคนต่อต้านมากกว่ายอมรับ เพราะทุกคนไม่เคยเห็นวงอย่างนี้มาก่อน ตอนออก TV ก็พูดจาตลก ทำให้คนดูรู้สึกแปลกใจมากกว่ายอมรับที่พวกผมเป็นอย่างนี้ โดยเฉพาะพวกผู้ใหญ่จะไม่ชอบเอาซะเลย เพราะเกลียดวัยรุ่นที่แต่งตัวประหลาดอย่างพวกเขา เรียกว่ารับไม่เลยหล่ะ"
<< ---------------------------- >>

 

ต่อกันเลย << ---------- 1 9 8 8 ---------- >>
- เมษายน ออก ALBUM: VANISHING VISION จัดจำหน่ายโดย EXTAST RECORD ปก ALBUM เป็นรูปหน้าอกผู้หญิงถูกกรีดเป็นตัว X ชวนสยองขวัญ ทำให้คนฮือฮากันมาก หลังออกจำหน่ายก็มียอดขายสูงสุดของ INDIES ถึง 3 แสนแผ่น ความสำเร็จของ ALBUM นี้เกิดจากแรงกายแรงใจของพวกเขาเองทั้งสิ้น อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นกลุ่มเป็นก้อนในฐานะวงดนตรีของพวกเขาอย่างสมบูรณ์ ที่ผ่านมาพวกเขามักจะถูกมองว่าเป็นพวกออกแนวอิโรติก จากการออก TV และการแสดงต่างๆ แต่พอออก ALBUM ชุดนี้แล้ว พวกเขาก็เป็นฝ่ายชนะและได้รับการชื่นชมว่า "เป็นแนวดนตรี HARD ROCK ขนานแท้ ซึ่งมีรูปแบบดนตรีที่แน่นอน" ช่วงนั้น X มักจะร่วมแสดงสดกับวงดนตรีในสังกัด EXTASY RECORD เช่น LADIES ROOM, G-KILL (ปัจจุบันคือ ZI:KILL), TOKYO YANKEES อยู่บ่อยๆ พอตกดึกมักจะเจอพวกเขาหรือกลุ่ม EXTASY ที่ร้านเหล้าย่าน MEKURO ในตอนนั้น X ชื่อดังในแง่ลบมาก พอดื่มเหล้าก็จะหาเรื่องอาละวาดและทะเลาะกันทันที มีร้านเหล้าที่ห้ามพวกเขาเข้าออกนับไม่ถ้วน และโดนต่อว่าว่า "หลังจาก X มาเยือนแล้ว ก็หมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง" เลยทีเดียว ตอนนั้นพวกเขาอายุแค่ 20 ต้นๆ เท่านั้น คงเลือดร้อนและไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใดเลย
- พฤศจิกายน พวกเขาได้แสดงในงาน ALL NIGHT ROCK EVENT ชื่อ STREET FIGHTING MAN จัดขึ้นที่ MZA (ซึ่งในปัจจุบันไม่มีแล้ว) การแสดง EVENT ครั้งนี้เป็นการแสดงดนตรีตลอดทั้งคืน เริ่ม 3 ทุ่ม และจบลงตอน 7 โมงเช้าของวันต่อมา เป็น EVENT ที่ยิ่งใหญ่มาก วงที่ได้ขึ้นแสดงเป็นวง ROCK ชั้นเยี่ยมของญี่ปุ่น ได้แก่ ANTHEM, DEAD END , D, ERLANGER, EDVILS, GASTANG, G.D. FLICKERS, FUSTY NASTY, KINNIKUSHOJOTAI, PRESENCE, REACTION, ZIGGY และ X ครั้งนี้ X ได้เล่นเป็นวงแรกในฐานะที่เป็น "วงดนตรีหน้าใหม่ฝีมือไม่ดีนักที่ถูกคาดหวังในการดำเนินกิจกรรมต่อจากนี้ไปมากที่สุด" แต่แรงดึงดูดบนเวทีนั้นไม่น่าเชื่อว่าเป็นวงน้องใหม่เลย พวกเขาได้รับการต้อนรับอย่างดีจากคนดู และยังได้รับการชื่นชมว่า "เป็นวงดนตรีที่ถูกคาดหวังในการดำเนินกิจกรรมมากที่สุดในปี 1989" ช่วงเปลี่ยนวงหรือขณะแสดงนั้น ภายหลังเวที พวกที่แสดงเสร็จแล้วจะนั่งล้อมวงดื่มเหล้ากันอย่างสนุกสนาน ตัวตั้งตัวตีก็คือ YOSHIKI และสมาชิกวง X นั่นเอง

 

1989
- 16 มีนาคม พวกเขาได้จัด เดบิวต์ไลฟ์ที่ Shibuyakokaido เป็นการแสดงสดที่รุนแรงมาก พวกเขาจะเอา solo ของแต่ละคนมารวมกันในการเล่น concert ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว style การเล่นนั้นยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเหมือนในปัจจุบัน แต่ก็เป็นโครงสร้างที่แสดงดนตรีต่อกันไปเรื่อยๆ โดยไม่มีเวลาหยุดพักหายใจกันเลย ความสมบูรณ์ของแต่ละเพลงนั้นยอดเยี่ยมมาก เพลงหนักๆ ก็จะเล่นรุนแรงไปเลย แสดงให้เห็นถึงพลังอันมหาศาล Melody line ก็จำง่ายและงดงาม โดยเฉพาะเพลงช้านั้นเป็นงานชิ้นเอกเลยทีเดียว ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นวงเดียวกันกับตอนที่เล่นเพลงหนัก พวกเขาทั้ง 5 เมื่อได้แสดง concertบนเวทีก็ดูยิ่งใหญ่ เท่ห์อย่างไม่มีที่ติ ดนตรีหนักแต่ melodyสวย รุนแรงแต่งดงาม การตีกลอง 2กระเดือง เล่นกีตาร์คู่ ดีดช่วง solo พร้อมกัน เสียงเบสเป็น Hard Rockแต่ใช้ Shopper
- เมษายน ออก Album: Blue Blood เป็นเดบิวต์ Album อย่างเป็นทางการ การบันทึกเสียงโดยมีสมาชิกวงแบบนี้เป็นครั้งที่ 2 ต่อจาก Vanishing Vision การบันทึกเสียงครั้งนี้เป็นไปอย่างเข้มงวดและใช้เวลานานจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นน้องใหม่ พวกเขาได้ทำการบันทึกเสียงจนถึงก่อนการแสดงสด 1 วัน เลยทีเดียว พวกเขาใช้ห้องอัดพร้อมกันถึง 3 แห่ง แห่งหนึ่งใช้อัดเสียงร้อง อีกแห่งใช้ทำ Track Down และอีกแห่งใช้ทำการซ้อมการแสดงสด พวกเขาทำการอัดเสียงที่ห้องอัดของ Sony ระหว่างการบันทึกเสียง Yoshiki ถึงกับต้องนอนที่โซฟาในห้องอัดเลยทีเดียวเพราะไม่มีเวลากลับบ้าน เรื่องที่บอกว่าการบันทึกเสียงของ X นั้นนานมากหรือการที่ Yoshiki จะทำดนตรีให้เป็นไปตามที่คิดได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นที่กล่าวขวัญกันอย่างกว้างขวางตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
- 22 เมษายน Album : Blue Blood ก็ออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ มีทั้งหมด 12นาที ALBUM ชุดนี้ได้รวบรวม X อีกด้านหนึ่งไว้ และเป็นผลงานที่สมกับเป็นผลงานชิ้นเอกจริงๆ เพลงหนักๆ ทำให้รู้สึกเร้าใจ เพลงช้าก็ดูหนักแน่นและเจ็บปวด เป็น ALBUM ที่พวกเขาอยากจะสื่อถึงอารมณ์ดีใจ,โกรธ,เศร้า,สนุก เพลง Rose of pain ซึ่งให้วง Orchestra เต็มรูปแบบ 40 คนบรรเลง มีความยาว 11.49 นาที ให้ความรู้สึกดั่งละคร แสดงให้เห็นถึงความคลาสสิคของพวกเขาโดยเฉพาะ Yoshiki จุดสำคัญของ Album นี้คือ "X จะเปลี่ยนรูปแบบเป็นมืออาชีพ" นั่นเป็นคำพูดที่สมาชิกในวงคิดขึ้นมาเอง แต่พวกเขาก็เปลี่ยนฉากของวงการอย่างหนักแน่นจริงๆ ในขณะที่เป็นวงดนตรีน้องใหม่ที่แต่งตัวกันสุดฤทธิ์สุดเดช ที่ไม่เคยมีมาก่อนในระดับมืออาชีพ Album นี้ขึ้นอันดับ 6 ของ Origon Chart ทันที ซึ่งการที่วง Rock ได้รับความนิยมในปี 1989 นั้นเป็นเรื่องแปลก ใครๆ ก็ตกตะลึง ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เปลี่ยนจาก LPมาใช้ CD พอดี ดังนั้น X ก็เลยทำ LP เป็น 2 แผ่น ที่ไม่เหมือนใคร เปลี่ยนลำดับเพลง และใช้เพลงหน้า 1-3 เท่านั้น ออกจำหน่าย ซึ่งก็ขึ้น LP Chart อันดับ 1 ของ Origon ทันที หลังจากนั้น Album นี้ก็ยังคงขายดีเรื่อยมา ไม่ใช่แค่จะขายดีเท่านั้น จำนวนผู้มาดูการแสดงก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ Blue Blood Tour แสดงสดทั่วประเทศ 16 แห่ง เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม บัตรขายหมดทุกที่นั่ง ไม่ว่า X จะไปไหนก็ได้รับการต้อนรับอย่างร้อนแรง และได้รับการชื่นชมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในวงการสื่อมวลชน พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับเช่นเดียวกัน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด มีนักเขียนหลายๆ คนไม่ชอบพวกเขา เพราะคำเล่าลือของ X ในตอนนั้นน่ากลัวมาก แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย หลังจากที่พวกเขาประสบความสำเร็จ
จากการ Tour Concert พวกเขาก็ไปต่างประเทศเพื่อทำเพลง Yoshiki ไป London,New York, Paries ส่วน Toshi,Hide,Pata,Taiji ไป LA, New York ความจริง Yoshiki ไป London เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับการบันทึกเสียงของ Dead. X ได้รับรางวัลนักร้องหน้าใหม่ยอดเยี่ยมของ Nippon Yusentosho เป็นวงดนตรี HARD ROCK วงแรกของญึ่ปุ่นที่ได้รับการยอม รับจากคนทั่วไป รางวัลทั้ง 2 นั้น เป็นการรวบรวมผลจากการโหวตทางโทรศัพท์ทั่วประเทศ จึงหมายความว่าเพลงของ X เป็นเพลงที่ได้รับการโหวตมากที่สุดในบรรดาศิลปินทั้งหมดที่เดบิวต์ในปี 1989 และยังอยู่ในยอดขายอันดับ 1 ของ Single chart นักร้องหน้าใหม่ของ Chart Origon ประจำปี 1989 นั่นเอง จากการที่ X ได้รับรางวัลมากมายขนาดนี้ทำให้ Toshi พูดว่า "มันเป็นการแสดงให้เห็นว่าทุกคนชื่นชมเพลงของพวกเราเป็นจำนวนมากเลย ดีใจมากครับ" X ในตอนนั้นดูท่าทางจะไปได้อย่างราบรื่น แต่ก็ต้องมาเจอกับอุบัติเหตุครั้งใหญ่
- ในเดือน พฤศจิกายน พวกเขาเริ่ม Tour Concert ครั้งที่ 2 คือ Rose & Blood Tour ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน นอกจาก Hall จะใหญ่กว่าการ Tour ครั้งที่แล้ว บัตร Concert ยังขายหมดเกลี้ยงทุกที่นั่งอีกด้วย สมาชิกในวงคึกกันสุดฤทธิ์ การแสดงเต็มไปด้วยพลังอันมหาศาลน่ากลัวกว่าทุกครั้งที่แสดง จากการเล่น Concert หนักๆ ติดต่อกันนานๆ ทำให้ Yoshiki อ่อนล้ามากขึ้น ครั้งแรกที่มีการยกเลิก Concert คือที่ Fukuoka วันที่ 30 ตุลาคม สาเหตุเพราะโรคประจำตัวของ Yoshiki โรคหอบหืดเริ่มมีอาการรุนแรงขึ้น เขาไม่ยอมไปรักษาที่โรงพยาบาล จนถึงวันที่ 8 พฤศจิกายน เขาสลบหลังจาก solo กลองเสร็จ ทำให้ Concert ต้องเลิกกลางคัน และเขาก็ได้ยกเลิก Concert จากนั้นอีกหลายแห่ง และวันที่ 22 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันแรกของ Concert 2 วัน ที่ Shibuya หลังจากจบการแสดงแล้ว Yoshiki สลบในห้องพัก ถ้า Yoshiki ฝืนต่อไปอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตการเป็นมือกลองของเขา ในที่สุดพวกเขาจึงตกลงกันด้วยความลำบากใจ ยกเลิก Concert หลังจากนั้นทั้งหมดและเลื่อนเวลาออกไปที่ Shibuya ครั้งที่ 2 ในเดือน ธันวาคม บัตรขายหมดทุกที่นั่งอย่างรวดเร็วและอีกหลายแห่งในปีนั้น ต้องเลื่อนเวลาออกไปจนกว่าร่างกายของ Yoshiki จะกลับสู่สภาพเดิม โรคนั้นชื่อว่า "วงจรเส้นประสาทไร้สมรรถภาพ เนื่องจากการทำงานมากไป รวมทั้งโรคปวดหลัง" จากการให้สัมภาษณ์ของเขาเมื่อพูดถึงการเล่น Concert แล้วเป็นลมในครั้งนั้นเขาพูดว่า "เวลาที่ผมตีกลอง ความรู้สึกของผมอยู่ระหว่างความสบายใจกับความลำบาก บางครั้งสบายใจมาก บางครั้งลำบากมาก ผมคิดว่าเวลาที่ลืมความรู้สึกแบบนั้นได้ คือเวลาที่วิเศษมากที่สุด ผมเกลียดผมที่ยังมีแรงเดินกลับไปหลังเวที ฉะนั้นผมก็จะใช้แรงทั้งหมดจนเป็นลม อยากมี Concert ที่ดีที่สุดทุกครั้ง" "เวลาที่อยู่ใน concert ก็อย่างที่ผมบอก ถ้าไม่เต็ม 100 ละก็ผมจะเกลียดตัวเองมาก อย่างเวลาที่ solo กลอง ความรู้สึกเวลานั้นผมบอกตรงๆ ว่า ผมลืมหมดเป็นลมหลัง solo เสร็จ เล่นเอาทีมงานวุ่นวายไปหมด ทุกคนก็มีงานยุ่งจะตายอยู่แล้ว แล้วยังต้องมายุ่งกับผมอีก แต่ผมยืนคนเดียวไม่ไหวจริงๆ ต้องมีคนมาหิ้ว ความรู้สึกตอนนั้นมันหมดแล้ว Staff เองก็รู้ เฮ้ย! Yoshiki แย่แล้วนี่หว่า รีบมาช่วยยกหัวผมและเอาพัดลมมาให้ บางครั้งผมปางตายก็น็อคไป ถ้าผมกลับไปเล่นกลองต่อไม่ไหวจริงๆ Staff ต้องแอบบอก Hide ว่า "ยัง… ยังไม่ฟื้น! เล่นต่อ… เล่นต่อ!" (หัวเราะ)" จากบทสัมภาษณ์ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า Yoshiki นั้นทุ่มเทให้กับการแสดง Concert มากก็เพื่อแฟนๆ เพลงของพวกเขา ในช่วงที่สภาพร่างกายของ Yoshiki ฟื้นดีขึ้นแล้ว พวกเขาก็ได้ประกาศตารางเวลาใหม่ของ Rose & Blood Tour ที่ถูกเลื่อนมาตลอด ในครั้งนี้สิ่งที่ทำให้ตกใจคือ การแสดงสดครั้งแรกของครั้งนี้คือ 14 กุมภาพันธ์ จัดการแสดงที่ Nippon Budohkan แต่เดิมการแสดงที่ Budokhan เป็นสิ่งที่เสริมเข้าไปในตารางเวลา ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนเมนูเพลงในแต่ละวันที่แสดง แต่การลื่นไหลนั้น ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่ การแสดงสดของ X นั้น มีพลังอันแปลกประหลาด


1990
- 17 พฤษภาคม ก็เสร็จสิ้น Rose & Blood Tour ซี่งใช้เวลามานานกว่า 8 เดือน ที่ Osaka Jo Hall พวกเขาปิดฉากอย่างน่าประทับใจที่ Osaka หลังจากที่ Yoshiki สลบกลางงาน ถึงแม้ Tour Concert เสร็จสิ้นแล้ว แต่พวกเขาก็งานยุ่งเหมือนเดิมเพราะต้องถ่ายทำ VDO: Visual Shock VOL 2.5 พวกเขาอยู่ใน Studio ที่ Roppongi ติดต่อกันหลายวัน จนไม่สามารถปลีกตัวไปทำงานอื่นได้ จากนั้นพวกเขาก็ประกาศการเดินทางไป LA. เพื่อบันทึกเสียง Album ชุดที่ 2 ข่าวเริ่มเงียบหายไปจากสื่อต่างๆ เหลือไว้แต่คำพูดที่ว่า "จะไม่กลับญี่ปุ่นจนกว่าผลงานที่ยอมรับได้จะเสร็จ" แล้วสมาชิกทั้ง 5 ก็เดินทางไป LA,usa
- เดือนพฤศจิกายน การบันทึกเสียงของ X ในเวลานาน อย่าง Album Indies: Vanishing Vision ก็ใช้เวลาบันทึกเสียงทั้งหมด 300 ชม. ส่วน Album: Blue Blood ใช้เวลากว่า 2 เดือน ดังนั้น Album นี้ก็ไม่รู่ว่าจะใช้เวลานานเท่าไหร่ แต่ก่อนไป X ก็ทิ้งผลงานไว้ชุดหนึ่งคือ Film Gig มันต่างจาก Film Concert ทั่วๆ ไป มีทั้ง Film Gig และ message จากสมาชิก ภาพถ่าย VTR ก่อนเดบิวต์ และภาพล่าสุดที่ Usa. ระบบเสียงและประสิทธิภาพนั้นเหมือนการแสดงสดจริงๆ ทำให้บรรยากาศครึกครื้น การแสดงดนตรีที่เหมือนมีพลังการแสดงสดจริงๆ ผู้ชมทั้งกรี๊ดและเต้นท่า Monkey Dance ในเพลง 20TH Century Boy ท่า X Jump ในเพลง X การร้องประสานเสียงในเพลง Endless Rain แฟนๆ มีปฏิกริยาโต้ตอบเหมือน X แสดงสดอยู่จริงๆ Film Concert ที่มี Encore นั้นก็ไม่มีใครทำนอกจาก X Film Concert สถานที่เปิดคือ Tokyo Bey NK Hall จุคนได้ถึง 8,000 คน ฉายทั้งหมด 3 ครั้ง วันที่ 8-9 ธันวาคม บัตรเข้าชมขายหมดอย่างรวดเร็ว รอบๆ Hall ก็จะมีผลิตภัณฑ์ของ X ขาย ทำให้แฟนๆ เพลิดเพลินและสนุกกับโลกของ X ก่อนเข้าชม Concert ด้วย ผู้เข้าชมทุกคนจะได้รับของขวัญเป็น CD single ใส่ในกระป๋องแบบพิเศษ ในนั้นมี CD ซึ่งมี message จากสมาชิกในวง ยาว 25 นาที กับเมล็ดของต้นสนดำพร้อมวิธีการปลูก ซึ่งภาวนาให้แฟนเพลงปลูกอย่างทะนุถนอม ในการ Tour Film Gig ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 1991 แต่ของขวัญที่ได้จะเปลี่ยนสีกระป๋องจากดำเป็นแดงและเปลี่ยนเป็นเมล็ดต้นสนซีดาร์คิดะยาม่าแทน มันแสดงให้เห็นว่า การดูแลของ X ที่ใส่ใจแม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อย อยากให้แฟนเพลงดีใจ Tour Concert ครั้งนี้มี 33 แห่งทั่วประเทศ จนเข้าสู่ปี 1991 มันทำให้แฟนๆ คลายเหงาและคิดถึงไปได้มากทีเดียว
- ปลายป? 1990 ที่ X ไม่อยู่ก็ได้รับรางวัลดนตรียอดเยี่ยม: Nippon Taisho, รางวัล Music VDO ยอดเยี่ยม และรางวัล: Nippon Gold Disc Taisho

 

1991
- 7 พฤษภาคม ช่วง Golden Week ก็มีข่าวว่า X เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ LA (ทั้งๆ ที่มีกำหนดกลับญี่ปุ่นตอนต้นเดือนมิถุนายน) ทั้งหมด 3 ข่าว คือ การจัด Concert ที่ Tokyo Dome ในวันที่ 23 สิงหาคม 1991, Album 2ND : Jealousy จะจัดจำหน่ายในวันที่ 1 กรกฎาคม 1991 และ กลับญี่ปุ่นวันที่ 5 มิถุนายน นับเป็น idea ที่สมกับเป็น X ที่ชอบทำอะไรไม่เหมือนใคร การแถลงข่าวครั้งนี้มีสื่อมวลชนมากมายทั้งญี่ปุ่นและต่างชาติ
- 5 มิถุนายน Hide,Pata และ Taiji ก็กลับมาตามกำหนด แฟนๆ ไปรอรับที่สนามบิน Narita มากที่สุดตั้งแต่สนามบินนี้เปิดทำการมา ส่วน Yoshiki และ Toshi ติดปัญหาในการบันทึกเสียงจึงต้องอยู่ต่อ เลยกลับในวันที่ 7 มิถุนายน และไปออกรายการ Music Station ต่อทันที วันต่อมาก็ทำการบันทึกเสียงเพลงสุดท้ายและเสียงเปียโนต่อ การผลิตขั้นสุดท้ายเสร็จภายในวันที่ 12 มิถุนายน
- 16 มิถุนายน จัดจำหน่ายบัตร Concert: Tokyo Dome จำนวน 50,000 ใบ ขายหมด ภายใน 2 ชม. เท่านั้น และจะ Tour Concert ทั่วประเทศ ชื่อว่า Violence In Jealousy Tour ~Yumenonakanidake Ikite~ ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน TV Sport ของ Album ที่มีฉากจูบของ Yoshiki ถูกฉายออก TV และ Album:Jealousy ที่ห่างหายไป 2 ปี 2 เดือน ก็ขึ้นอันดับ 1 ของ Origon Chart ทันที แสดงให้เห็นถึงอำนาจมหาศาลของ X ได้เป็นอย่างดี Concert ที่ Tokyo Dome ประสบความสำเร็จกว่าที่คิดไว้มาก ในระหว่างตารางการแสดงนั้น คนดูทั้ง 50,000 คน ยืนดูตั้งแต่ต้นจนจบและส่งเสียงกรี๊ดตลอดเวลา เมื่อทุกคนทำ X Jump Tokyo Dome ถึงกับสั่นทีเดียว ความเป็น 1 เดียวบนเวทีกับพลังของคนดูอันร้อนแรง X กำลังไปได้อย่างสวยงาม
- 11 กันยายน ก็ออก Singleแรกของ Album: Silent Jealousy เป็นเพลงที่มีความเป็น X และเป็นเพลงเด่นที่มักจะใช้เปิด Concert บ่อยๆ
- 17-19 ตุลาคม 3 วันนี้ X จัด event ที่ Shinjuku Power Station โดยปลีกเวลามาทั้งที่ งานยุ่ง X มักจะโผล่ไปงาน event ต่างๆ เสมอ เช่น Extasy Summit ที่เป็นเจ้าภาพ และ event ของเพื่อนนักดนตรี ตอนนั้น Yoshikiกับ Hide พูดยืนยันว่า "พวกเราชอบฉลองหลังเสร็จงาน" พวกเขาชอบงานฉลองเอามากๆ 3 วันนี้ นอกจากจะมีนักดนตรีในสังกัด Extasy Record เช่น Luna Sea,Ladies Room, ZI :Kill แล้ว ยังมีเพื่อนนักดนตรีอย่าง Dynamite Tommy,By Sexual,Issay,Baki นอกจากนี้ยังมี Daimashim Gonin Gums ซึ่งผลุบๆ โผล่ๆ อยู่เป็นประจำมาก รวมทั้งเพื่อนของสมาชิกในวงและ Staffมาร่วมแจมบนเวทีด้วย ทำให้งานครึกครื้น เมื่อเสร็จงานก็ต้องมีการเลี้ยงฉลอง สมาชิก X ดื่มเหล้ากับนักดนตรีด้วยกันยันสว่าง ตอนนั้นเขาชอบให้ทุกคนมาดื่มรวมกันและส่งเสียงดัง ตำนานนี้ปฏิบัติกันเรื่อยมาตั้งแต่สมัย Indies โดยไม่มีการเลี่ยนแปลงเลย แต่ในวันที่ 24 ตุลาคม หลังจากจัด eventไม่นานนัก Yoshiki ก็สลบในช่วง solo กลอง ใน concert ที่ Yokohama Arena ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของ tour ทำให้ concert ต้องหยุดกะทันหันและเลื่อนออกไป วันถัดมาก็ออก Single: Standing Sex นอกจากชื่อเพลงรุนแรงเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากแล้ว ปก CD และโฆษณานั้น Yoshiki ก็ปรากฏด้วยร่างเปลือยเปล่า (Nude) เป็นที่ฮือฮามากในหมู่สื่อมวลชน
29 ตุลาคม พวกเขาได้จัด Extasy Summit ซึ่งเป็นงานของค่ายที่จัดมาตลอดตั้งแต่สมัย Indies ที่ Nippon Budokhan แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของวงดนตรีในสังกัด Extasy Yoshiki ปรากฏด้วยท่าทางที่แข็งแรง หลังจากที่สลบบนเวทีเมื่อ 1 อาทิตย์ก่อนหน้านี้ เขาพูดถึงสภาพร่างกายของตัวเองและกล่าวขอโทษกับแฟนๆ นอกจากเป็นพิธีกรแล้วเขายัง Surprise แฟนๆ ด้วยการ ใส่ชุดเจ้าสาวสีขาว Toshiและพิธีกรอีกคนก็ใส่ด้วย เป็นภาพที่เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ และทำให้ผู้เกี่ยวข้องตะลึงกับความตลกของพวกเขาเอามากๆ หลังจากนั้น 2 วัน Yoshiki ประกาศตั้งวง V2 ร่วมกับ Tetsuya Komuro สมาชิกวง TMN มกราคมปีถัดมาออก Single: Hatioku No Hitomi กับ VDO 1 ม้วน งานของวงจบลงแค่นี้ เพราะพวกเขางานยุ่งเกินคนธรรมดาทั้งคู่
- 4 พฤศจิกายน Yoshiki มีแผนการณ์จะจัดการแสดงเหตุการณ์จำลองปก CD:Jealousy ที่ Yokotengoku,Harajugu แต่เนื่องจากมีแฟนเพลงมารวมตัวกันกว่า 5,000 คน ก็เลยถูกตำรวจสั่งห้าม ทำให้ Yoshiki ซึ่งกำลังเตรียมตัวอยู่ใกล้ๆ เจ็บใจมากที่ถูกสั่งห้ามอยู่บนรถ
- 12-13 พฤศจิกายน การแสดงที่ Yokohama Arena จบลงโดยสวัสดิภาพ วันที่ 16 เดือนเดียวกัน ได้จัด concert อย่างกะทันหันโดยไม่มีการบอกล่วงหน้าที่ Live House Eggman ที่ Shibuya กลุ่มแฟนเพลงที่รู้การเคลื่อนไหวก็เกิดการแย่งชิงบัตรเข้าชมกัน การแสดงในเวลาอันสั้นแต่มีผู้เข้าชม 300 คนที่ได้ชมอย่างใกล้ชิดนั้นร้อนแรงกันมาก ภายในร้านร้อนขนาดหายใจแทบไม่ออก จากเหตุการณ์จราจลครั้งนี้ทำให้ Secret Live ที่ Live House ที่ Osaka และ Nagoya ถูกยกเลิกไปอย่างน่าเสียดาย ต่อมาก็มีการแถลงข่าวจาก X ต่อสื่อมวลชนว่าจะแสดง Concert ที่ Tokyo Dome 3 วัน ในช่วงปีใหม่ การที่ศิลปินญี่ปุ่นแสดง Concert ที่ Tokyo Dome เป็นเวลา 3 วันนั้น มันหมายความว่า X ได้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของ J Rock มันเป็นความใฝ่ฝันที่จะได้ขึ้นเวทีที่ Tokyo Dome ตั้งแต่สมัยเป็นมือสมัครเล่นแล้ว และพวกเขาก็ประกาศอีกว่า เป้าหมายต่อไปที่พวกเขาคิดไว้คือ การก้าวออกสู่ตลาดโลก
- 1 ธันวาคม ออก Single: Say Anything เป็นเพลงช้าที่ได้รับความนิยมเป็นเวลานาน ทำให้ X ได้รับคำชื่นชมด้านรูปแบบดนตรีอย่างมาก ไม่มีใครว่าพวกเขาว่า "เป็นวงที่ไม่ได้เรื่อง ที่ดีแต่ฉูดฉาดกับรุนแรง อีกแล้ว การแสดงดนตรีร่วมกับวง Orchestra ลงใน Album ได้สร้างภาพลักษณ์ให้คนดูได้เห็นถึงความงดงามในการแต่งของท่วงทำนองเพลงที่เป็นสากลชัดเจนขึ้น
- 20 ธันวาคม จัด Film Gig ที่ Budokhan ซึ่งเป็นที่สุดท้ายของ Tour Concert: Violence In Jealousy Tour ที่เริ่มตั้งแต่สิงหาคมเป็นต้นมา การแสดงทั่วประเทศ 9 รอบ 15 แห่ง บัตรขายหมดเกลี้ยง รวมทั้ง event ในฤดูร้อนปีที่แล้ว มีคนดูรวมทั้งสิ้นกว่า 3 แสนคน แน่นอน บัตร Film Gig ขายหมด แต่เหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่คือในช่วง Encore ครั้งที่ 2 นั้น ตัวจริงปรากฏบนเวทีและแสดงดนตรีให้ชม ซึ่งเป็นการแสดงความขอบคุณต่อแฟนเพลง
- ในวันส่งท้ายปีเก่า 1991<พวกเขาได้ร่วมมหกรรมขาวแดง(เป็นรายการที่ได้รับความนิยมจากคนทุกรุ่น) ของ NHK: Kohakuutagakusen เป็นครั้งแรก การทำผมตั้งและแต่งหน้านั้น เป็นเหตุการณ์ที่แปลกใหม่ที่หลงเหลืออยู่ในประวัติศาสตร์วงการเพลงญี่ปุ่น พวกเขาสร้างแรงดึงดูดได้มากกว่าวงอื่นที่เคยออกมาก่อนหน้านี้ทั้งหมด หลังมหกรรมขาวแดงแล้ว

 

1992
- 5-7 มกราคม X ได้จัด Concert ที่ Tokyo Dome ติดต่อกัน 3 วัน เมนูเพลงก็ต่างกันทั้ง 3 วัน วันที่ 5 เป็นการแสดงสดที่เชื่อมต่อจากการTour Concert ตั้งแต่ฤตูร้อนปีที่แล้ว วันที่ 6 เป็นการแสดงสดที่มีพลังมาก เน้นเพลงสมัย Indies ส่วนวันที่ 7 เป็นการแสดงที่น่าประทับใจและเสน่ห์ของ X แสดงยาวกว่า 4 ชม. ช่วง Encore สมาชิกทุกคนร้องไห้ด้วยความตื้นตันใจ สมาชิกทุกคนออกมาทักทายคนดูหลังจากจบการแสดงครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่มีใครรู้ว่านี่เป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเขาทั้ง 5 คือ Yoshiki,Toshi,Hide,Pata,Taiji ที่ได้แสดงร่วมกัน
- 29 มกราคม มี fax จาก X ที่ส่งให้สื่อมวลชนต่างๆ ว่า "Taiji ลาออกจากวงแล้ว" ซึ่งไม่ได้แจ้งเหตุผลให้ฟังอย่างชัดเจน เพียงแต่เขียนไว้ว่า "Taiji กับพวกเรา 4 คนจะเดินไปยังคนละเป้าหมายกัน" พวกเขาเป็นวงที่ประสบความสำเร็จและยืนอยู่จุดสูงสุดของ J Rock การประกาศลาออกอย่างกะทันหันของ Taiji นั้น ทำให้แฟนเพลงและผู้เกี่ยวข้องตกตะลึง แต่ถ้าลองมองย้อนกลับไป จะเริ่มเห็นวี่แววตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว เมื่อ Taiji มีเวลาว่าง เขาได้ตั้งวงกับสมาชิกวง Londness และได้ขยายวงเพื่อนฝูงมากขึ้นเรื่อยๆ การแต่งหน้าและแฟชั่นก็เป็นชายมากขึ้นเรื่อยๆ เปลี่ยนไปในรูปแบบของนักดนตรี Hard Rock ที่รุนแรงมากขึ้น ตอนที่เริ่มรู้สึกว่าความคิดทางด้านรูปแบบดนตรีและความคิดที่มีต่อวงนั้นเริ่มแตกต่างจากสมาชิกคนอื่นๆ Taiji ได้ขอเจรจากับหัวหน้าวง Yoshiki เกี่ยวกับเรื่องนี้ การเจรจามีขึ้นกลางดึกของวันที่ 31 ธันวาคม 1991 หรือเช้ามืดวันที่ 1 มกราคม 1992 เป็นการออกมหกรรมเพลงขาวแดงครั้งแรก และเป็นวงที่ประสบความสำเร็จ แต่กลับมีการเจรจาเกี่ยวกับการลาออกของ Taiji ซึ่งเท่ากับว่า ตอนที่แสดง Concert 3 วันที่ Tokyo Dome นั้นได้มีการกำหนดว่าเขาลาออกจากวงแล้วนั่นเอง ความตึงเครียดใน 3 วันนี้ ไม่ใช่แค่การแสดง 3 วันเท่านั้น เพื่อนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาถึง 6 ปี ตั้งแต่สมัย Indies นั้นจะออกจากวงไป โดยการแสดงครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย พอนึกถึงเรื่องนั้นแล้ว พวกเขาก็ทุ่มเทหลังเต็มที่กว่าที่ผ่านมา น้ำตาในช่วง Encore ของวันที่ 7 การทักทายคนดูหลังจากเสร็จการแสดงอันยาวนาน ทั้งหมดนั้นมากจากการลาออกของ Taiji หลังออกจาก X เขาก็เข้าร่วมวง Londness จากนั้นก็ตั้งวง D.T.R. (Dirty Trash Road) ซึ่งเขาเป็นหัวหน้าวง และอยู่มาจนถึงปัจจุบัน ครั้งหลังปี 1991 หลังจากออก Album:Jealousy และทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย ก็ได้หยุดดำเนินกิจกรรมอีกครั้ง เก็บตัวเงียบ และเริ่มหาสมาชิกใหม่อย่างเงียบๆ แต่การหามือเบสที่จะมาแทนTaiji ซึ่งมีเทคนิคในการเล่นเบสยอดเยี่ยม และ X เป็นวงที่มีชื่อเสียงมาก จึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ในวันหนึ่ง X จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ Rainbow Room ของ ร็อดเฟร่าเซนเตอร์,New York มีสื่อมวลชนจากประเทศต่างๆทั่วโลกมารวมตัวกันกว่า 200 คน X ประกาศเซ็นสัญญากับค่าย Warner Music จากที่พวกเขาเคยพูดว่าจะก้าวออกสู่ตลาดโลกนั้น มันกลายเป็นจริงแล้ว ในขณะเดียวกันก็ประกาศเปลี่ยนชื่อวงจาก X เป็น "X JAPAN" เหตุผลเพราะว่า ที่ LA มีวงชื่อ X แล้ว เพื่อการดำเนินกิจกรรมอย่างกว้างขวางทั่วโลก พวกเขาก็เลยต้องเปลี่ยนชื่อวง การซักถามนั้นเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด และเพื่อสื่อมวลชนของประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ ก็ได้นำระบบการแปลโดยล่ามในขณะนั้นที่ใช้ในการประชุมระหว่างชาติมาใช้ Heath มือเบสคนใหม่ก็ปรากฏตัวเป็นครั้งแรก ในตอนนั้นพวกเขาไม่ได้กล่าวถึงประวัติก่อนหน้านั้นเลย แต่ Heath เคยเป็นนักดนตรีวง Indies ต่างๆ คือ Paranoid,Majestic Isabelle,Media Youth จริงๆ แล้วเขาเคยน่วมแสดงในวง Muteki Band (วงที่รวมกันหลายวง โดยมี X เป็นศูนย์กลาง) ในปี 1991 และเคยออก TV มาแล้ว เขาเคยดำเนินกิจกรรมในฐานะวง Indies มาก่อน ดังนั้น เขาจึงเคยพบปะกับ X และนักดนตรีของ Extasy ซึ่งกว่าจะได้รับเลือกให้เข้าวงนั้นได้มีการพิถีพิถัน และผู้ที่ได้รับเลือกว่าเหมาะสมที่จะเป็นสมาชิก X ก็คือ Heath ในตอนนั้น Hide ได้บอกถึงเหตุผลที่รับ Heath เข้าเป็นสมาชิกว่า ในตอนนั้นมีคนเก่งๆ เทคนิคเยี่ยมมาสมัครเป็นสมาชิกเยอะมาก Heath ไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดในนั้น แต่เพราะว่า Heath เป็นคนที่พัฒนาเร็ว จึงอาจทำให้ Heath ได้รับคัดเลือกก็ได้ และอาจเพราะ Heath สามารถเล่นดนตรีร่วมกับ X เข้ากันได้ดี ซึ่ง Hide เคยพูดไว้ว่า "เรื่องเข้ากันได้คือเรื่องสำคัญ ที่ว่าเข้ากันได้ไม่ได้หมายความว่า คนนั้นต้องมีประสบการณ์เพียบหรือเป็นมือโปร ไม่สนใจว่าคุณเคยเล่นดนตรีประเภทไหนมา เป็นใครก็ได้ เพียงแต่ต้องการคนที่เหมาะสมกับ X"
29 กรกฎาคม ก่อนจัดการแถลงข่าวครั้งนี้ 20 วัน ได้มีการจัด Talk Live ของ Yoshiki ที่ Nihon Budokhan เป็น event ที่รำลึกในการจัดจำหน่ายสมุดภาพของ Yoshiki แต่บัตรเข้าชมขายหมดภายในเวลา 4 นาทีเท่านั้น เนื่องจากไม่ได้พบปะแฟนเพลงมานาน และแสดงให้เห็นถึงชื่อเสียงที่ไม่เสื่อมคลาย วันนั้นได้บรรเลงเพลง Art Of Life เป็นครั้งแรก ร่วมกับวง Orchestra เพลงนี้มีความยาว 30 นาที ที่ Yoshiki แสดงให้เห็นถึงชีวิตของเขาเอง พอครึ่งหลังของเพลง Toshi,Hide,Pata ก็ปรากฏตัวบนเวที และแสดงดนตรีให้คนดูได้เห็นรอยยิ้มที่สดใสหลังจากไม่ได้เห็นมากนาน
- 29 ตุลาคม X-Japan ก็จัดงาน Extasy Summit 92 อีกครั้ง ที่ Nihon Budokhan โดยมีสมาชิกครบวง วันที่ 29 ที่ผ่านมาก็ได้จัดงาน Summit ที่ Osaka Jo Hall แต่ Yoshiki ยังบันทึกเสียงไม่เสร็จ ยังไม่กลับจาก LA ก็เลยไม่ได้ไปร่วมงาน แต่ Heath ซึ่งปรากฏตัวต่อหน้าแฟนเพลงนั้นได้รับเสียงเชียร์จากคนดู ทำให้เขาดีใจมาก เขายังไม่เคยแสดง concert ร่วมกับ X-Japan แต่เขาก็ได้รับการยอมรับจากแฟนเพลงแล้ว
- วันส่?ท้ายปีเก่า 1992 X-Japan ได้ร่วมมหกรรมเพลงขาวแดง เป็นครั้งที่ 2 พวกเขาเล่นเพลง Kurenai ทำให้แม้แต่แฟนเพลงเก่าแก่ตกตะลึง นอกจากนี้ Yoshiki ได้แต่งเพลง Tears ซึ่งเป็น Theme Song ของงานมหกรรมขาวแดงในปีนี้ เขาดีด Pipe Organ เอง ใน NHK Hall และผู้ร่วมงานทุกคนก็ร้องประสานเสียงกัน ทั้งนักร้องเพลงสมัยก่อนของญี่ปุ่น นักร้องวัยรุ่นที่มีชื่อเสียง ผู้มาร่วมงานทุกคนร้องเพลงที่ Yoshiki แต่ง ช่างเป็นอะไรที่น่าประทับใจและยิ่งใหญ่ พวกเขายืนหยัดอย่างมั่นคงในวงการเพลงญี่ปุ่น ตั้งแต่ออกรายการนี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปีที่แล้วนั้น ได้สร้างความประทับใจให้กับคนดูมากยิ่งขึ้น หลั


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์