Dir en grey

ที่มา:http://www.direngreythailandfanclub.com/ เว็บบอร์ด
http://yurameki.exteen.com/20070204/dir-en-grey
http://writer.dek-d.com/gobaba123/writer/view.php?id=556407

profile

ตั้งแต่เริ่มทำวงตอนปี 1997 Dir en grey ก็ประสบความสำเร็จได้รับความนิยมพอสมควรในบ้านเกิดของพวกเขา และช่วงนี้พวกเขาก็เริ่มเป็นที่รู้จักในต่างประเทศ โดยการเปิดแสดงทัวร์ทั่วยุโรปและอเมริกา สไตล์เพลงของ Dir en grey นั้น ไม่สามารถระบุเจาะจงว่าเป็นชนิดใดชนิดหนึ่งได้ เพราะว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมารูปแบบของพวกเขาก็ค่อยๆพัฒนาเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ หนึ่งในนั้นคือแนวร็อก เนื่องจากพวกเขามักมีความเป็นร็อกเป็นองค์ประกอบในเพลงอยู่เสมอๆ แม้ว่าช่วงนี้จะหนักไปทางเมทัลเสียมากกว่า Dir en grey เป็นวงที่มีทั้งคนรักและเกลียด เพราะแฟนๆบางกลุ่มจะชอบพวกเขาตอนช่วง Visual Kei ตรงกันข้ามกับอีกกลุ่มหนึ่งที่กลับชอบแนวเรียบง่ายๆในช่วงปีหลังๆมากกว่า
Biography
สมาชิกในปัจจุบัน 4 คนของ Dir en grey มีรากฐานมาจากวงอินดี้ชื่อ La:Sadies ที่ตอนนั้นพอ KISAKI มือเบสแยกตัวออกไป แล้วต้นปี 1997 ก็ได้ Toshiya มาเป็นมือเบสใหม่ วงก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Dir en grey อัลบั้มแรกที่ออกมาใช้ชื่อว่า MISSA ซึ่งยังคงกลิ่นอายของ La:Sadies ไว้อยู่ อัลบั้มบรรจุทั้งหมด 6 เพลง พวกเขาก็เหมือนกับวงอินดี้ญี่ปุ่นวงอื่นๆที่ต้องพยายามก้าวไปข้างหน้า แต่เพียงแค่ออกเพลง JEALOUS และ I’ll ในปี 1998 พวกเขาก็กลายเป็นวงญี่ปุ่นอิสระวงแรกที่ติด 1 ใน 10 โอริกอนชาร์ตได้ ซึ่งนั่นก็ทำให้นักดนตรีที่เป็นแรงบันดาลใจของพวกเขา Yoshiki Hayashi แห่ง X-Japan หันมาสนใจพวกเขาได้ 5 ซิงเกิ้ลของ Dir en grey ที่ออกในปี 1999 ได้ Yoshiki มาโปรดิวซ์ให้ แล้วพวกเขาก็ออกอัลบั้มเต็ม GAUZE ที่แสดงให้เห็นถึงการก้าวไปข้างหน้าด้วยแนวทางที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง โดยการผสมผสานระหว่างฮาร์ดร็อกและซอฟร็อกเข้าด้วยกัน ซึ่งเราจะได้ยินได้จากหลายๆเพลง อย่างเพลง Yokan เป็นตัน หลังจากความสำเร็จของอัลบั้ม GAUZE Dir en grey ก็ผันตัวเองเป็นเมเจอร์อย่างเต็มตัว พอ Yoshiki เลิกโปรดิวซ์ให้ในปี 2000 วงก็ประกาศออกอัลบั้มใหม่ หลังจากที่ออกซิงเกิ้ลมาแล้วหลายแผ่นก่อนหน้านี้ อัลบั้มใหม่มีชื่อว่า MACABRE ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่า Dir en grey จะมุ่งหน้าทำเพลงไปในแนวเพลงตามชื่อ MACABRE (MACABRE แปลว่า น่าหวาดกลัวในความตายหรือการเสื่อมถอย) ด้วยเนื้อเพลงที่ล้วงลึกไปถึงสังคมอันมืดมน สื่อมวลชน ความรัก การลุ่มหลงในเรื่องเพศ เน้นหนักไปทางด้านลบเสียส่วนใหญ่ ดูเหมือนว่า จะพยายามทำวงให้แตกต่างจากวงทั่วไป โดยการลองอะไรหลายๆอย่าง และใช้ทุกอย่างที่มีอยู่ในห้องอัด
เพลงใน MACABRE มีหลากหลายตั้งแต่ร็อกจนถึงเมทัล ซึ่งเพลงส่วนใหญ่ในอัลบั้มนี้จะมีท่อนขึ้นเพลงเป็นเสียงแบบที่ได้ยินในโรงงานอุตสาหกรรมคลออยู่เบื้องหลัง เป็นที่น่าประหลาดใจมากที่พวกเขาออกเพลงแนวบัลลาร์ดอย่างเพลง Ain't afraid to die ตามด้วยซิงเกิ้ลต่อมาอีกหลายแผ่น และตามคาดการณ์อัลบั้มต่อมาที่มีชื่อว่า Kisou ก็วางจำหน่าย ซึ่งก็ยังนำเอาหัวใจหลักในอัลบั้ม MACABRE อย่างเสียงรบกวน หรือเสียงทดลองในโรงงานอุตสาหกรรมมาไว้ในอัลบั้มนี้ แต่จะเริ่มมองเห็นอิทฺธิพลจากฝั่งตะวันตกได้อย่างชัดเจนในอัลบั้มนี้
พร้อมไปกับการออกอัลบั้มใหม่ Dir en grey มีทัวร์นอกประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก พวกเขามีทัวร์ในประเทศจีน ไต้หวัน และเกาหลีใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเซี่ยงไฮ้มีข่าวลือว่าเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นพยายามจะระงับคอนสิร์ตในวันที่ 2 ของพวกเขา เพียงไม่กี่เดือนหลังจากออกอัลบั้มที่ 3 พวกเขาก็ออกซิงเกิ้ล six Ugly ที่คราวนี้ได้เอาแนวเพลงตะวันตกเข้ามาผสมผสานไว้อย่างแท้จริง รวมถึงเนื้อเพลงที่กล่าวถึงข้อโต้แย้งต่างๆ
จากการออกอัลบั้ม VULGAR ในปี 2003 ทำให้แฟนๆ Dir en grey เริ่มแบ่งแยกกลุ่มกันอย่างชัดเจน VULGAR ถูกนำมาเล่นครั้งแรกในทัวร์ Blitz 5 Days ของพวกเขา และ VULGAR นี้เองก็ทำให้เข้าใจลึกซึ้งว่าพวกเขารับเอาอิทธิพลแนวเพลงแบบตะวันตกเข้ามาอย่างมากจริงๆ VULGAR ก็ยังทำให้พวกเขาเสียแฟนๆบางกลุ่มไป เพราะแฟนๆเหล่านั้นรู้สึกว่าวงสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองเพื่อไปเอาใจแฟนเพลงต่างประเทศ และเพลงก็เริ่มหนักไปทางฮาร์ดร็อกและเฮฟวี่เมทัล ในมีนาคมปี 2005 ก็ออกอัลบั้ม Withering to death ที่ยิ่งตอกย้ำไปอีกว่าทำเพลงในสไตล์ตะวันตก ด้วยการออกอัลบั้มนี้เอง Dir en grey ก็ประสบความสำเร็จในชาร์ตเพลงที่ไม่ใช่ชาร์ตเพลงในเอเซียเป็นครั้งแรก โดยที่อัลบั้มไต่ถึงลำดับที่ 31 ในชาร์ตเพลงของประเทศฟินแลนด์ วงประกาศทัวร์ยุโรปครั้งแรกของพวกเขามีสองคอนเสิร์ต ที่เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมันนี และเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศล ตั๋วคอนเสิร์ตทั้งสองที่ขายหมดเกลี้ยง เพียงแค่การบอกกันปากต่อปาก และการโฆษณาในอินเตอร์เน็ตเท่านั้น เป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความนิยมของพวกเขาในยุโรปจริงๆ หลังจากคอนเสิร์ตแรกของพวกเขาที่เมืองเบอร์ลิน Dir en grey ได้ร่วมแสดงในงานเฟสติวัลที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมันนี Rock and Ring และ Rock im Park
พอประสบความสำเร็จกับทัวร์ต่างประเทศของพวกเขา วงก็ขยายทัวร์ไปยังอเมริกาในปี 2006 แสดงที่ Austin, New York City และ Los Angeles ต่อด้วยการออกอัลบั้ม Withering to death ในอเมริกาเหนือ ต่อด้วยทัวร์ในประเทศเยอรมันนีในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนปี 2006 และแล้ว Kyo ต้องเข้าโรงพยาบาลเนื่องจากเส้นเสียงอักเสบ แม้ว่าทำให้ต้องยกเลิก 2 คอนเสิร์ตในประเทศญี่ปุ่น แต่วงก็ไปร่วมทัวร์ Family Values กับ KoЯn หลังจากที่ Kyo หายดีแล้ว แล้วกลับมาที่ประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง เพื่อร่วมงาน Loud Park Festival ซึ่งมีวงอย่าง Megadeth, Slayer และ Children of Bodom มาร่วมงานด้วย
ในปี 2007 Dir en grey ก็มีทัวร์ one-man ทั่วประเทศอเมริกา พอดีกับที่ออกอัลบั้มเต็มลำดับที่ 6 ของพวกเขา ชื่อว่า THE MARROW OF A BONE เมื่อเทียบกับอัลบั้มที่แล้วๆมา เนื้อเพลงในอัลบั้มนี้มีส่วนที่เป็นภาษาอังกฤษมากที่สุด รวมถึงแนวเพลงที่หนักไปทางเมทัลด้วย อัลบั้มได้รับคำวิจารณ์ต่างๆนาๆ ไม่ว่าจะเป็นการที่วงรับเอาอิทธิพลฝั่งตะวันตกมากจนเกินไป
ความสำเร็จจากการทัวร์ในอเมริกาของพวกเขา ทำให้ Dir en grey ได้เล่นเป็นวงเปิดให้กับ Deftones ในช่วงซัมเมอร์ทัวร์ของพวกเขา ขณะที่เริ่มทัวร์ไปรอบๆอเมริกา พวกเขาก็ประกาศทัวร์ใหม่สำหรับแฟนๆในยุโรป ปี 2007 เป็นการส่งสัญญาณปีแรกว่าพวกเขาจะแผ่ขยายทัวร์ไปทั่วทั้งเยอรมันนีและฝรั่งเศล และมีโซโลคอนเสิร์ตของตัวเองทั่วยุโรป รวมถึงการได้มีส่วนร่วมในงานเฟสติวัลที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่าง Wacken หลังจากสิ้นสุดทัวร์ที่ยุโรป Dir en grey ก็กลับมาที่ประเทศบ้านเกิดอีกครั้ง แล้วเริ่มทัวร์ DOZING GREEN
แล้วพวกเขาก็ทำให้ประหลาดใจ ด้วยการกลับไปทัวร์ในยุโรปอีกครั้ง ภายในไม่กี่เดือนหลังจากทัวร์ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แล้วปลายเดือนพฤศจิกายน Dir en grey ก็ได้เล่นเป็นวงเปิดให้กับการแสดงของ Linkin Park ที่ Saitama Super Arena
เพื่อเป็นการฉลองที่วงครบรอบ 10 ปี Dir en grey ออกอัลบั้มรวมฮิตอัลบั้มคู่ ในวันที่ 19 ธันวาคม Decade 1998-2002 และ Decade 2003-2007 ที่รวมรวบเพลงตลอดการทำงานของพวกเขาไว้มากมาย
ปี 2008 Kaoru ประกาศว่าวงจะกลับเข้าหัองเสียงเพื่อบันทึกอัลบั้มใหม่ ซึ่งคาดว่าจะออกจำหน่ายในยุโรปและอเมริกาด้วย พวกเขายังมีทัวร์ตลอดเดือนพฤษภาคมที่ประเทศญี่ปุ่น ใช้ชื่อว่า TOUR08 DEATH OVER BLINDNESS ซึ่งจบทัวร์ด้วยการแสดงติดกัน 3 วัน 28-30 พฤษภาคม ที่ Shinkiba Studio Coast
Dir en grey กำหนดออกอัลบั้มใหม่ ซึ่งเป็นอัลบั้มลำดับที่ 7 ของพวกเขา มีชื่อว่า UROBOROS ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2008 ซึ่งหลังจากทัวร์ TOUR08 THE ROSE TRIMS AGAIN ในอเมริกาเหนือ พวกเขาจะมีทัวร์ UROBOROS -breathing- ในวันที่ 29 ธันวาคม 2008 ซึ่งเป็นการกลับมาเล่นที่ Osaka Jo Hall อีกครั้งหลังจากผ่านไป 9 ปีเต็ม



***KYO - VOCAL***
ชื่อจริงของเคียวซังคือ NISHIMURA TOORU (นิชิมูระ โทรุ)
เกิดเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 1976 ที่ เกียวโต, ญีปุ่น กรู๊ปเลือด B
ที่จริงแล้วชื่อเคียวนั้นไม่ใช่ชื่อจริงๆ แต่เป็นเพราะว่า เคียวซังไม่ชอบชื่อตัวเอง(ตัวเขาเองก้อไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ชอบ)
ที่ใช้ชื่อนี้เพราะเขาเกิดที่เกียวโตและโดยส่วนตัวเขาชอบชื่อที่มีคันจิเพียงตัวเดียว
เนื้อร้องเกือบจะทั้งหมดแต่งโดยเคียวซัง
(หรือว่าทั้งหมดไม่แน่ใจนะคะ) (ถ้าหากใครรู้ช่วยมาบอกด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ)
เนื้อร้องที่เคียวซังแต่ง จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเจ็บปวด
เคียวซังบอกว่า ไม่ชอบความสุข(เออ แปลกๆดีนะ ชอบๆๆ)
เคียวซังบอกว่าเพลงของเค้าจะไม่มีทางจบแบบ มีความสุข
เคียวซังไม่สามารถที่จะเรียนต่อม.ปลายได้ เพราะทุกๆคนเห็นว่าเค้าเกเร
[แง้ไม่ๆๆ เคียวซังไม่ช่ายคนอย่างน้าน(แล้วแกไปรู้ได้ไงฟะ ไอนีน่า)]
ต่อๆ เคียวซังเป้นคนที่นิสัยแปลก ไม่ชอบสุงสิงกับใครไม่ชอบเข้าสังคม
อารมณ์รุนแรง หากรักใครก็จะรักมากกว่าคนปกติ หากเกลียดใครก็จะไม่มีวันดีด้วย
(ประมาณว่ายุ่งมีเคือง)
ส่วนสิ่งที่ชอบและไม่ชอบ เคียวซังตอบว่า"ผู้หญิง" ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม หากถามว่าชอบผู้หญิงแบบไหน เค้าบอกว่า "ต้องเป็นผู้หญิงที่เข้าใจความเจ็บปวดเหมอืนเค้าได้"
(หนูเข้าใจค่ะ เหอะๆ รีบตอบเลยนะแก แต่เรื่องนี้ตอบตามตรงว่าจริง)
เคียวซังยังชอบผู้หญิงในชุดกิโมโนด้วย (ถ้าไปคอนเสิร์ตของเคียวซังแล้วจะ ใส่กิโมโนไปค่ะ มีใครจะใส่เป็นเพื่อมั้ยคะ 555)
รักครั้งแรกของเคียวซัง คือผู้หญิงคนนึง แต่เค้าไม่ได้บอกใคร
แต่เพื่อนของผู้หญิงคนนี้รู้เข้า จึงไปบอกเจ้าตัวแล้วผู้หญิงคนนั้นก็ หลบหน้าเคียวซังตลอดทั้งที่เคียวซังอยากจะเป็นเพื่อด้วยเท่านั้น (ใจร้ายง่ะ)
หากถามว่าอยากแต่งงานมั้ย เค้าบอกว่าอยากแต่งงานมากๆ
เพราะเค้าเหงา เค้าอยากจะมีใครคนนึง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นทำกับข้าว ทานอาหารด้วยกัน เวลาที่เค้ากลับมาจากทำงาน (โอ้ ซึ้ง)
わたしは 京が 好きですよ.

***KAORU - GUITAR***
ชื่อจริง - NIIKURA KAORU (นิอิคุระ คาโอรุ)
เกิด - 17 กุมภาพันธ์ 1974 กร๊ปเลือด - A เป็นคนเดียวเลยที่มีกรุ๊ปเลือด A เกิดที่ - Hyougo
เอกลักษณ์ไม่แพ้ใคร แถมยังเป็นหัวหน้าวงด้วย (สุดๆ)
เป็ผู้ที่ทำไห้การประชุมของDir en greyจบลงได้ (เก่งจริงๆ)
ทุกคนในวงเกรงใจเค้าหมด นิสัยค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่ที่เดียว
(มีแต่คนบอกว่าสะดุดกับผมสีน้ำเงินของคาโอรุซัง แต่เค้าทำสีนี้แล้วเข้าดี)
รักครั้งแรกคือหลงรักคุณครูตอนอยู่อนุบาล (หวาน)

***DIE - GUITAR***
หนุ่มนามนี้ชื่อจริงคือ ANDOU DAISUKE(อันโด ไดสุเกะ)
และเมื่ออยู่ในฐานะDir en greyก็เปลี่ยนเป็น Die (ดาย)
เกิดเมื่อ - 20 ธันวาคม 1974 กรุ๊ปเลือด - B เกิดที่ - มิเอะ
หากถามว่าใครพูดเก่งที่สุดดายซังคนนี้แหละที่คุยเก่งที่สุดช่างพูดเหลือเกิน
หลายคนบอกเค้าเหมือนคนดุร้าย อำมหิต โกรธเคืองตลอดเวลา
แต่ที่จริงแล้วเค้าเป็นคนสนุกสนาน ดายซังถือว่าเป้นคนที่ทำให้ทั้งวงขำได้เสมอ
เค้าเป็นคนขี้เล่น ชอบแหย่และหลอกคนในวงเสมอ โดยเฉพาะ ชินยะซังโดนแกล้งเสมอ(แง้ แกล้งพี่ชายเค้าอ่ะ หรือพี่สาวหว่า) ดายซังชอบผู้หญิงตาโตและฉลาด

***TOSHIYA - BASS***
มาถึงมือเบสหน้าสวยแล้ว
ชื่อจริง - HARA TOSHIMASA (ฮาระ โทชิมาสะ)
เกิด - 31 มีนาคม 1977 กรุ๊ปเลือด - B เกิดที่ - นากาโนะ
เค้าเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยพูด ยิ่งถ้าเกิดอยู่หน้ากล้องยิ่งเงียบใหญ่ แต่ถ้าเกิดเป็นพวกสัมภาษณ์ในนิตยสารล่ะ ก็เหอะๆ พี่ท่านพูดไม่ยอมหยุดเลยโดยเฉพาะยิ่งอยู่กับดายซัง
2 คนนี้จะเข้ากันได้อย่างดี เวลาที่คิดหาเรื่องแหย่ชาวบ้าน เดาได้เลยว่ามี 2 คนนี้รวมอยู่ด้วย โทชิยะซังเป้นคนบ่อน้ำตาตื้นมาก เวลาที่ตื้นตันจะร้องไห้ออกมาเลย (แฟนๆเรียกเค้าว่า TOTCHI)


***SHINYA - DRUM***
มาถึงพี่สาว?!! แล้ว เหมือนป่ะล่ะเหมือนผู้หญิงมากกกกกก
นามเต็มๆ - TERACHI SHINYA (เทราจิ ชินยะ)
เกิด - 24 กุมภาพันธ์ 1978 (เด็กสุดเลย) กรุ๊ปเลือด - B เกิดที่ - โอซาก้า
(わたしは 兄 [姉]が 好きやねん.) <------ สำเนียงโอซาก้างับ
เค้าาเป็นคนอ่อนโยนและเงียบที่สุดในวง ชอบปล่อยมุขหน้าตายออกมาโดยที่ทุกคนไม่ทันตั้งตัว แถมยังชอบตกใจเกินเหตุและยังชอบพูดอะไรคล้ายด็อกเตอร์สติเฟื่องอีก
(อยากเห็นจัง ตอนปล่อยมุขเนี่ย กับตอนบ่น)
ชินยะซังเป้นคนติดตามเรื่องชาร์ตมาก รู้หมด ถามท่านพี่ได้เลยหากอยากรู้
จะเห็นได้เลยว่าลำเอียงสุดๆ จริงมั้ย อิอิ >W<


Kyo

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์