ประวัติ ♥~Hyde~♥ วง LArc~en~Ciel ^^

เอาภาพ GACKT และ MIYAVI มาลง จะไม่เอา HYDE มาลงก็ยังไงอยู่ ถ้าพร้อมแล้วมาอ่านประวัติของเค้ากันดีกว่า !!


ไฮด์ หรือ Hyde (อ่านว่า "ไฮโดะ" ใน ภาษาญี่ปุ่น และ "ไฮด์" ใน ภาษาอังกฤษ) เป็นนักร้องนำวง L'Arc~en~Ciel วง เจ-ร็อก ชื่อดัง ประวัติของเขาไม่แน่ชัดนัก ทั้งวันเกิดและชื่อจริงของเขาเป็นความลับทั้งหมด นอกจากนี้เขายังเป็นรู้จักในฐานะศิลปินเดี่ยวภายใต้สังกัด Haunted Records ในเครือ Sony Music อีกด้วย ในปี ค.ศ. 2000 ไฮด์ ได้แต่งงานกับนางแบบ โออิชิ เมกุมิ และมีลูกชายหนึ่งคน


ชื่อจริง ทาคาราอิ ฮิเดโตะ
ชื่อเล่น ไฮโดะ
วันเกิด 29 มกราคม พ.ศ. 2512
แหล่งกำเนิด จังหวัดวะกะยะมะ ญี่ปุ่น
แนวเพลง ร็อก
อาชีพ นักร้อง
นักแต่งเพลง
มือกีตาร์
เครื่องดนตรี กีตาร์,แซ็กโซโฟน,ฮาร์โมนิก้า
ค่าย Ki/oon Records,Haunted Records
 


ประวัติย่อ


ตั้งแต่เด็กไฮด์มักจะถูกแม่ของเขาจับให้แต่งตัวเป็นผู้หญิงเสมอ และเมื่อเขาอายุได้แปดขวบ เขาก็เริ่มหันมาฟังเพลง โดยแนวเพลงที่เขาชอบคือ เฮฟวี่ เมทัล หลังจากนั้นเขาก็เข้าสู่วงการครั้งแรกโดยตั้งวงดนตรีที่ชื่อ Jerusalem's Rod ขึ้นมา โดยเขาเป็นมือกีตาร์ และออกแสดงสดตามที่ต่างๆ จนกระทั้งเขาได้พบกับ เท็ตสึ ทั้งหมดจึงรวมตัวกันแล้วตั้งวงใหม่ชื่อ "L'Arc~en~Ciel" ขึ้นมา ซึ่งไฮด์ก็ถูกเท็ตสึทาบทามให้เป็นนักร้องนำ

และในปี ค.ศ. 2000 ทางวงได้พักงานชัวคราว ซึ่งตอนนี้เองที่ไฮด์เริ่มงานโซโล่ของตัวเอง โดยปล่อยอัลบั้มและซิงเกิลออกมามากมาย รวมทั้งเล่นหนังเรื่อง Moon Child กับนักร้องชื่อดังอย่าง แก๊กต์ อีกด้วย[1]

จนกระทั้งปี ค.ศ. 2003 ทางวงก็กลับมารวมตัวอีกครั้ง และพักอีกครั้งในปี ค.ศ. 2006 ไฮด์ได้แต่งเพลง "Glamorous Sky" ซึ่งใช้ประกอบหนังที่สร้างจากการตูนญี่ปุ่นเรื่อง นานะ และเพลงนี้ยังได้ มิกะ นากาชิม่า ผู้สวมบทนานะ มาร้องให้อีกด้วย นอกจากนี้ทั้งสองยังได้แสดงสดในรายการ มิวสิกสเตชัน ด้วยกัน โดยไฮด์เล่นกีตาร์[2]

เดือน กุมภาพันธ์ ปี 2006 ไฮด์ได้ปล่อยซิงเกิล Season's Call ซึ่งใช้ประกอบการ์ตูน อะนิเมะ เรื่อง Blood+

ปัจจุบันไฮด์กลับเข้ามาในวงอีกครั้งเพื่องฉลองครบ 15 ปี L`Arc~en~Ciel และปล่อยซิงเกิลล่าสุดอย่าง SEVENTH HEAVEN ออกมา


ไฮด์ตาบอดสี


ไฮด์เคยบอกว่าเค้าตาบอดสี ไว้ในหนังสือ JP BBS นอกจากนี้ยังบอกไว้ใน หนังสือ IS ด้วย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเค้าถึงไม่สามารถวาดรูปที่เป็นสีได้ เค้าทำได้แค่เพียงสเก๊ตรูปที่เป็นภาพขาวดำเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้แน่นอนสีทีเค้าโปรดปรานก็ต้องเป็นสีขาวและดำเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีบางคนรู้มาว่า (ไม่รู้คนนั้นคือใครนะ) Haido ตาบอดสี เพียงบางส่วนเท่านั้น เค้าสามารถเห็นสีได้ทุกสีเพียงแต่เค้าไม่สามารถ แยกความแตกต่างระหว่างสีชมพูกับสีเขียวได้ เค้ามองเห็นสองสีนี้เป็น สีเทา นี่ก็เป็นอีกเหตุผลนึงว่าทำไมเค้าชอบสวมเสื้อผ้าสีขาว แล้วถ้าเค้า ไม่สามารถเห็นสีอะไรเลยทำไมเค้าสามารถสะสม Blue Glass ได้ เค้าแยกออกได้ไง ว่ามันคือสีฟ้า ดังนั้นโรคตาบอดสีของเค้าคงไม่ร้ายแรงอย่างที่พวกเราคิดหรอกน่า


เครื่องดนตรีที่ Haido เล่นครั้งแรก


สิ่งนั้นก็คือ….Pianica เป็นลักษณะคล้ายๆกับคีบอร์ดอันเล็ก
ที่มีที่เป่า เค้าเคยแสดงที่งานโรงเรียนด้วย

ผลงานเพลง

ดีวีดี
Roentgen Stories (2004)
FAITH Live (2006)

อัลบั้ม
Roentgen (2002)
Roentgen Overseas Version (2002)
666 (2003)
roentgen.ENGLISH (2004)
FAITH (2006)
FAITH , U.S. Version (2006)

ซิงเกิ้ล
Evergreen (2001) #1 Japan
Angel's Tale (2001)
Shallow Sleep (2002)
Hello (2003) #1 Japan
Horizon (2003)
Countdown (2005) #1 Japan
Season's Call (2006) #1 Japan[3]

รายละเอียดปลีกย่อยของไฮด์
เนื่องจากชื่อจริงของไฮด์เป็นความลับ เท็ตสึจึงตั้งชื่อไฮด์เล่นๆว่า "โดอิ ฮาจิโร่" ซึ่งเป็นการนำชื่อ ไฮด์ (ฮา-อิ-โดะ) มากลับคำเป็น โด-อิ-ฮา
ไฮด์เป็นโรคตาบอดสี
ไฮด์มีรอยสักรูปปีกอยู่ที่หลัง
ตอนแรกไฮด์ไม่ได้อยากเป็นนักร้องนำ เพราะเขาคิดว่าตัวเองร้องเพลงไม่เพราะ
เมื่อเขายังเด็ก เขามีความฝันว่าอยากเป็นศิลปิน
ไฮด์เป็นเพื่อนสนิดกับ แก๊กต์ นักร้อง เจ-ร็อก ชื่อดัง
ไฮด์ชอบกินอาหารจีนและ ราเมน
ไฮด์ชอบหนังแนวสยองขวัญ และชอบเล่นเกม Resident Evil 


ข้อเสียของไฮด์


เหมือนกับนักร้องทั่วๆไปไฮด์ก็มีปัญหาเกี่ยวกับการพูดบนเวทีไฮด์บอกว่าเค้ามีปัญหาเกี่ยวกับการพูดบนเวที โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายการ TV มันน่ากลัวผมจะกระพริบตาบ่อยๆ ผมคิดว่ามันจะหายถ้าผมออกรายการ TV บ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ผล ซึ่งถ้าเค้ามีเวลาส่วนตัวเค้าก็เป็นคนไม่ค่อยพูด เพราะเค้าค่อนข้างจะขี้อาย


เพื่อนสนิทของไฮด์


Hinano Yoshikawa คนที่โฆษณากูลิโกะ และเคยแต่งงานกับ Izam ไง และถ้าพวกนายลองกลับไปอ่าน รายละเอียดของ อัลบั้ม Tierra จะพบคำว่า Special Thanks to Yoshikawa Hinano ทำไมต้อง special thanks ?? ก็เพราะว่า Hinano บันทึกเสียงหัวเราะของเธอใน album นี้ นะสิอยู่เพลงที่ 9 นะ ลองฟังกันดูซึ่งในขณะนั้นมีข่าวลือว่า Haido กับ Hinano ออกเดทด้วยกันซึ่ง Hinano ก็ออกมาแก้ข่าวว่า เป็นไปไม่ได้หรอกเพราะอายุของเราต่างกันมาก อย่างไรก็ตามพี่ชายของ Hinano ก็ชอบ J-rock (หรืออยู่ในวง J-rock ก็ไม่รู้นะ) นั่นทำให้เธอรู้เรื่องราวเกี่ยวกับ J-rock ด้วย


Kiyoharu อดีตสมาชิกวง Kuroyume ซึ่งปัจจุบันอยู่วง SADS ---- ไฮด์เคยให้สัมภาษณ์คู่กับ Kiyoharu ใน Shoxx และแกล้งทำเป็นว่าทั้งสองคนเป็นคู่เกย์กันKiyoharu บอกว่าพวกเราเริ่มความสัมพันธ์นี้ (แน่นอนโกหก) ในตอนที่เราแลกเบอร์โทรกัน และพวกเราก็มีความสุขกับชีวิตโฮโมเซ็กชวลด้วยกัน ไฮด์บอกว่าเค้าคิดถึง Kiyoharu ตลอดเวลา นอกจากนี้ทั้งคู่ยังพูดถึงเรื่องที่แฟนเพลงชอบบอกว่า เค้าทั้งสองเป็นเกย์ เพราะมีภาพที่ทั้งสองกอดกันอยู่บ่อยๆ ปัจจุบันทั้งคู่ก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกันเท่าไหร่นัก


เดทครั้งแรกของไฮด์


ขณะที่เค้าเรียนใจชั้นมัธยมปลายไฮด์ชอบเด็กผู้หญิงที่น่ารักคนนึงและ ชวนเธอไปเที่ยวทะเล เพราะว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นชอบผู้ชายที่มีความกระตือรือร้น เป็นนักกีฬา Haido จึงเข้าร่วมในชมรม Soccer แต่ก็ลาออกภายใน 3 วัน เหตุที่ลาออกเพราะเค้าต้องการที่จะเตะบอลไม่ใช่เก็บลูกบอล


ไฮด์เป็นคนออกแบบฉลากขวดไวน์นี้เป็นขวดไวน์ที่วางขายในร้านเพื่อนไฮด์


Shinkeisuijyaku เป็นชื่อร้านไวน์ของเพื่อนร่วมห้องของไฮด์ที่ชื่อ minami ที่ร้านนี้ ไฮด์ยังได้ออกแบบฉลาก ปิดขวดไวน์เอง เมื่อแฟนเพลงรู้เรื่องนี้ทำให้มี ผู้มาซื้อไวน์ ที่ ไฮด์ออกแบบเป็นจำนวนมากราคาแค่ 750 เยนเองนะร้านนี้เปิด 17.00 ถึง 24.00 ทุกวันเว้นวันพุธ


อุบัติเหตุที่เกิดกับไฮด์


ไฮด์รักการขี่จักรยานและไปตั้งแคมป์ตอนเรียนชั้นประถม เค้าชอบทำกิจกรรมที่โลดโผน
และหาชุดที่เป็นเครื่องแบบทหารแบบแรมโบ้มาใส่นอกจากนี้เค้าชอบที่จะขี่จักรยานไปบนภูเข้ากับเพื่อนๆไฮด์เคยเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง คือว่าครั้งนึงเค้าขี่จักรยานลงมาจากเขา โดยปล่อยให้จักรยานลงมาเองโดยไม่แตะเบรคเนื่องจากถนนมีความคดเคี้ยวมากทำให้เค้าไม่เห็นว่าข้างหน้านั้นมีรอยแยก เมื่อจักรยานมาถึงจุดนั้นเค้าพยายามที่จะเบรค แต่สายไปแล้ว รถของเค้าเสียหลักและล้มไม่เป็นท่าและสลบไป สิ่งที่เค้าจำได้ก็คือมีชาวนามาพาเค้าไปส่งโรงพยาบาล และต้องผ่าตัดด่วน เค้านอนในโรงพยาบาลเป็นเวลาถึง 2 อาทิตย์ (น่าสงสารจัง)
ผลที่ได้รับคือแขนซ้ายหักและ มีแผลเป็น ที่ลำคอด้านซ้าย ยาวเป็นทาง ซึ่งในปัจจุบันก็ยังคงมีแผลเป็นให้เห็นอยู่ รวมทั้งแขนซ้ายของเค้าก็ใช้งานได้ไม่ค่อยจะดี เมื่อไม่สามารถทำกิจกรรมดังกล่าวได้เค้าจึงหันไปสนใจดนตรี โดยเฉพาะ Heavy Metal


นาฬิกาของไฮด์กับเท็ตสึ


นาฬิกาของไฮด์กับเท็ตสึเมื่อตอนที่เค้าทั้งสองมาเมืองไทยเมื่อปี 99 ถ้าใครได้ดูสัมภาษณ์พวกเค้าทาง Channel [ V] ของ UBC มีตอนนึง Haido โชว์ให้ดูว่าเค้ามีนาฬิกา
ที่เหมือนกับ tetsu เลย และนอกจากนี้ด้านในยังสลักชื่อของทั้งสองคนไว้ด้วย เป็นนาฬิกาที่ทำขึ้นเป็นพิเศษของ 2 คนนี้เท่านั้น


งาน Part Time


หลังจากเรียนจบจากโรงเรียนศิลปะ ไฮด์สอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้จึงไปทำงาน Part Time และงานแรกที่เค้าทำคือ มิสเตอร์โดนัท ซึ่งตั้งอยู่ที่หน้าสถานีรถไฟ Wakayama แต่เค้าคิดว่างานนี้ไม่ดีเลย เพราะลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้านส่วนใหญ่เป็นคนแก่ ซึ่งคนเหล่านี้ เมื่อมาแล้วก็หวังว่าจะได้รับการบริการที่ดีเลิศเช่นต้องการให้ ไฮด์จำได้ว่าพวกเค้าชอบกินและชอบดื่มเครื่องดื่มอะไรซึ่งไฮด์ จะจำได้ไงหล่ะก็คนแก่เหล่านั้นสำหรับเค้าแล้วหน้าตาเหมือนๆ กัน ไปหมดนี่นา ไฮด์บอกว่าทุกๆ วันเค้าต้องพูดประโยคซ้ำๆกัน
คือ"Irashaimase...nanishimashou..."


ไฮด์ร้องไห้


ในรายการวิทยุ Tokyo FM 'Afternoon Breeze' เมื่อวันที่ 11 ธค 44 ผู้ฟังได้ถามคำถามนึงว่าเค้าเคยร้องไห้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เค้าตอบว่า"เค้าร้องไห้นิดหน่อยตอนที่ดูหนังเรื่อง Harry Potter แล้วก็ร้องไห้อย่างมากเลยเมื่อตอนที่เค้าดูหนังเรื่อง SKIP เป็นเรื่องราวของเด็กที่เติบโตมากับสุนัขชื่อว่า Skip มีดารานำคือ Kevin Baconแสดงเป็นพ่อ ซึ่งออกฉายเมื่อประมาณปี 2544 เค้าดูหนังเรื่องนี้เมื่อตอนอยู่บนเครื่องบิน ซึ่งผู้โดยสารคนอื่นนอนหลับกันหมดแล้ว มีแต่เค้าคนเดียวที่ดูหนังเรื่องนี้แล้วก็ร้องไห้ เค้าไม่ได้ร้องไห้อย่างมากอย่างงี้มานานแล้ว เค้าดูหนัง Skip นี้ถึง 2 ครั้งโดยครั้งที่ 2 เมื่อเพื่อนของเค้าบอกว่าอยากดูเรื่องนี้มั่ง เค้าก็เลยไปเช่ามา video มาให้ดูและตั้งใจว่าจะไม่ร้องไห้อีกต่อไป
แต่เมื่อได้ยินเพลงประกอบหนังเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น เค้าก็เริ่มร้องไห้ทันที เพลงประกอบทำให้เค้านึกถึงเรื่องราวของหนังเรื่องนี้ขึ้นมา"


ผับ House Apple


เป็นผับของครอบครัวของ ไฮด์อยู่ใน Wakayama (Osaka) พ่อแม่ของไฮด์แต่งงานเมื่ออายุยังน้อยมากและแต่งงานท่ามกลางการคัดค้านของปู่และย่าของ ไฮด์ เค้าทั้งสองสร้างผับนี้หลังจากแต่งงาน และตั้งชื่อตามเพลงของThe Beatles ซึ่งเป็นวงที่ พ่อของไฮด์ชอบมาก ในผับ House Apple นี้ มีตู้เพลงซึ่งส่วนใหญ่จะเปิดเพลงฝรั่ง ซึ่งเป็นที่มาให้ ไฮด์ชอบเพลงตะวันตก โดยเฉพาะเพลง Stranger ของ Billy Joel


ถ้าไปที่ผับแห่งนี้นะเมื่อเข้าไปในร้านจะพบเคาร์เตอร์ รูปครึ่งวงกลม และตรงกลางของ เคาร์เตอร์นั้นนายจะได้พบกับพ่อและแม่ของ ไฮด์ยืนต้อนรับอยู่ด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น
มีคนบอกว่าคุณพ่อของ ไฮด์เป็นคนที่หน้าตาหล่อมากๆ เลย และ ไฮด์ก็หน้าเหมือน พ่อเค้ามาก นอกจากนี้แม่ของ ไฮด์ก็น่ารักมากด้วยเช่นกัน


ร้านนี้มีแฟนเพลงของ ไฮด์มาเยี่ยมอย่างสม่ำเสมอ และแม่ของเค้าก็ชอบที่จะเข้ามาพูดคุย
เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ ไฮด์อีกด้วย ผับแห่งนี้เปิด จันทร์ ถึง เสาร์ตั้งแต่ 20.00 ถึง ตีสาม
และวันอาทิตย์ 20.00 ถึงตีสองตอนนี้ได้ข่าวว่าผับนี้ปิดตัวไปแล้ว เสียดายจัง

รอยสักของไฮด์


มีคนถามกันมากเลยว่า ไฮด์มีรอยสักจริงๆ (ที่เป็นเข็มทิ่ม) มั้ยเพราะเท่าที่ผ่านมาก็เป็นแค่สติ๊กเกอร์ติดเท่านั้น ตอนนี้มีคนเค้าเฉลย แล้วหล่ะว่าเมื่อ concert real live ที่ผ่านมาคงจำกันได้ว่า ไฮด์ถอดเสื้อร้องเพลง ในเพลงสุดท้าย และนั่นเองทำให้ทุกคน เห็นรอยสักบนแผ่นหลังอันเปลือยเปล่าของเค้า


ไฮด์ฉี่รดที่นอนบ่อย


เรื่องเกิดขึ้นก็สมัยที่ยังเป็นนู๋ไฮด์อยู่เลย คือว่าพ่อนู๋ไฉด์แกชอบฝันเห็น ห้องน้ำอยู่เป็นประจำ และถ้าในฝันมีภาพห้องน้ำอยู่เมื่อไหร่หล่ะก็ พี่แกจะต้องเข้าไปฉี่ในนั้นทันที ซึ่งนี่แหล่ะเป็นสาเหตุของการฉี่รดที่นอน ในตอนเช้าเป็นประจำของไฮด์แต่ต่อมาเธอก็สามารถหายจากการ
ฉี่รดที่นอนได้… ทำไงหน่ะเหรอ…….ก็แค่คิดเท่านั้นแหล่ะ ไฮด์เค้าก็คิดของเค้าเองว่าถ้าเค้าฝันเห็นห้องน้ำเมื่อไหร่นะ เค้าจะต้องไม่เข้าไปฉี่ในนั้นอีกอย่างเด็ดขาด ซึ่งเค้าก็ทำได้สำเร็จ
และเมื่อโตขึ้นสิ่งแรกที่เค้าทำหลังจากตื่นนอนคือการเข้าห้องน้ำนั่นเอง


ไฮด์เคยเป็นครูสอนตีกลอง


ในปี 1988-1989 haido เคยทำงาน part time ที่ร้านขายเครื่องดนตรีที่ชื่อว่า "IWAKI" ซึ่งอยู่ตั้งอยู่ที่โอซาก้าบ้านเกิดของเค้า เค้าสามารถใช้เส้นพนักงานในการเช่าห้องซ้อมดนตรีของร้านในราคาถูก เขาเช่าห้องซ้อมดนตรีที่นี่บ่อยมากโดยใช้ชื่อจริงในการเช่า ซึ่งในช่วงนั้นเค้าได้สอนตีกลองให้กับเด็กนักเรียนชั้นมัธยมปลาย ในละแวกนั้นด้วยเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน เค้าใช้เวลา 30 นาทีทุกวันอาทิตย์ในการสอนโดยสอนประมาณ 5-6 ครั้ง เด็กนักเรียนที่โชคดีเหล่านั้นกล่าวถึงลักษณะของ haidoว่า "haido เป็นคนพูดน้อย ท่าทางเงียบๆ และดุมาก"


พวกเค้ายังจำคำพูดของ haido ได้อีกว่า "ตั้งใจกันหน่อย ถ้าไม่เข้าใจก็หยุดได้เลย" หรือ "คราวหน้า จำจังหวะให้ได้นะ" เพราะว่าไฮด์มีความตั้งใจในการเล่นดนตรีมากดังนั้นเขาจึงพูดอะไรที่ตรงๆเสมอ



ขอขอบคุณ
ที่มา www.love-miyavi.is.in.th



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์