ลือสนั่น! ดาราหนุ่ม Love Sick2 ทำสาวป่อง ท้องไม่รับ

"ฝากแชร์หน่อยคะ พ่อใจร้ายกับผู้หญิงนิสัยแย่ อย่าชื่นชมคนแบบนี้เลยคะเขาไม่ได้ดีเหมือนหน้าตาประสบการณ์ชีวิตของคนที่ขึ้นชื่อว่า "single mom" ไม่มีใครอยากเป็น single mom หรอกคะ จริงมั้ย? และในวันนี้เราขอมาพูดถึงผู้ชายที่เราเคยหลงรักเพราะว่าเขาหล่อ เขาเท่ ถ้าเราได้คบกับเขาคงเป็นอะไรที่ดีมาก(ตอนที่เจอกันครั้งแรกคิดแบบนั้นจริงๆ คะ) เรากับแฟนคบกันได้ประมาณ 4-5 เดือน ช่วงเวลาที่เราคบกันเขาดีมากๆ ดูแล เอาใจใส่เราดีมากๆ จนทำให้เรายิ่งรักและหลงใหลในรูปลักษณ์ของผู้ชายคนนี้มากกว่าเดิม"

"วันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ที่เด็กวัยรุ่นและนักศึกษาอย่างเราไม่อยากเจอก็คือการ "ท้อง" วันแรกที่เรารู้ว่าเราท้อง เราก็ไม่กล้าบอกพ่อกับแม่ เพราะกลัว เราก็เลยปรึกษากับแฟนเราก่อนว่าจะทำยังไงกันดี แต่เราไม่มีทางเอาลูกออกแน่ๆ พอเรากับแฟนคุยกันว่าเราจะเก็บลูกไว้ แฟนเราก็บอกว่าเขาจะรับผิดชอบเอง เรากับแฟนก็เลยตัดสินใจไปบอกแม่ของแฟนเราก่อน แล้วเราค่อยบอกพ่อกับแม่เรา พอพ่อแม่เรารู้แน่นอนค่ะว่าเขาก็เสียใจและผิดหวังในตัวเรามาก เพราะเรากับแฟนก็ต่างคนต่างเรียนอยู่ เราก็รู้สึกแย่นะคะ ที่เรื่องมันเป็นแบบนี้ พ่อแม่เราก็เรียกแม่ของแฟนเรามาคุย ว่าจะเอายังไง วันที่นัดมาคุย พ่อแม่เราก็นัดแม่ของแฟนเรามาที่บ้าน แต่เขาก็ไม่มา เขาบอกว่าเขาไม่กล้าเข้าบ้านเรา เขากลัวว่าครอบครัวเราจะทำร้าย(เขาคิดกับครอบครัวเราในแง่ลบตลอดคะ) แม่แฟนเราเลยนัดให้พ่อแม่เราออกคุยที่ร้านอาหาร นาทีนั้นเราก็ต้องยอมออกมาตามที่เขาบอกแหละคะ เพราะเราเป็นผู้หญิงเราก็เสียเปรียบเขา พ่อกับแม่เราก็คุยกับแม่ของแฟนเราแล้วแม่ของแฟนเราก็เอาเงินมาขอขมาพ่อแม่เรา 30,000 บาท ซึ่งเราก็ไม่ได้คิดอะไรกับจำนวนเงิน เราแค่อยากทำให้มันถูกต้อง และต่อหน้าพ่อแม่เราเขาก็บอกว่าจะดูแลเรากับลูกให้ดีที่สุด"

"หลังจากนั้นคะ เรากับแฟนก็ย้ายออกมาอยู่หอด้วยกัน ช่วงที่ย้ายมาอยู่ด้วยกันนี่แหละคะทำให้เราพบกับปัญหาชีวิตที่แย่ที่สุด ตั้งแต่วันแรกที่ย้ายเข้ามาอยู่หอ ค่าห้อง ของใช้อื่นๆ ที่จำเป็นเราเป็นคนออกทั้งหมด รวมๆ ก็เกือบหมื่น ที่เราต้องจ่ายคนเดียว เพราะเราบอกว่ายังไม่มีเงิน เราก็ไม่ได้คิดอะไร เราใช้ชีวิตอยู่ในห้องกับลูกที่อยู่ในท้อง ส่วนแฟนเราเขาเป็นนักร้อง นักดนตรี ร้องเพลงตามผับ ตามร้านเหล้า ตามร้านอาหาร กว่าเขาจะกลับมาห้องก็ตี 2 ตี 3 บางวันก็ไม่กลับมาเลย เราก็รอนอนพร้อมเขาทุกคืนนะคะ แต่พอเขากลับมาถึงห้องอาบน้ำแล้วก็นอนเลย แทบจะไม่ได้คุยกันเลยด้วยซ้ำ( นี่ขนาดอยู่ด้วยกันนะคะ)ช่วงที่มาอยู่หอด้วยกันเรานับครั้งที่กินข้าวด้วยกันได้เลย และนานๆ ทีเขาถึงจะซื้อข้าวขึ้นมาให้เรากิน"

"เรื่องกำลังจะเกิด เราจับได้ว่าเขามี ผญ. หรือ "กิ๊ก" นั้นแหละ มี ผญ. ชอบเขาเต็มเลย เราก็ต้องทำตัวให้ชินสิคะ เราก็พยายามเข้าใจ ว่าเขาทำงานแบบนี้ พวกเรื่องแบบนี้มันก็ต้องมีบ้าง แต่ใครมันจะไปทนได้หละ เคยได้ยินไหมว่า เสียทองเท่าหัวแต่ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร 555 ทุกครั้งที่เราจับได้ เขาก็จะบอก "มันเป็นงานของเขา เรื่องแบบนี้มันกํต้องมีบ้าง และเรื่องที่เราท้องและเป็นแฟนกับเขา เขาให้เราปิด ไม่ให้เราไปโพสต์รูปลงเฟสเขา เพราะเขากลัวแฟนคลับเห็นบวกกับเขากลัวเสียงานที่เขาไปแคสต์ซีรีส์เรื่องหนึ่งไว้ เราก็โอเค เราทำตามที่เขาขอทุกอย่าง ถึงแม่มันจะเจ็บปวดก็ตาม เราก็ปิดคบกันแบบเงียบๆ จนวันหนึ่งเรื่องมันชักแปลกๆ มี ผญ.คนหนึ่งชื่อเล่นว่าโบว์ เขากับแฟนเรากำลังคบกันอยู่ เรารู้ได้ไงเหรอ เขาตั้งสถานะคบกันในเฟส ผญ.ไปเฝ้าแฟนเราร้องเพลง และวันที่แฟนเราไม่กลับห้อง เขาก็ไปนอนด้วยกัน"

"เราก็เลยถามแฟนเราว่าจะเอายังไง แฟนเราก็บอกว่าเลิกคุยกันแล้ว เขาเลือกเรากับลูก แต่สุดท้ายก็ยังแอบคุยแอบคบกันอยู่ดี โบว์ก็รู้นะคะว่าเรากะแฟนเราคบกันแล้วก็รู้ด้วยว่าเราท้อง แต่รู้ไหมคะว่า ผญ.คนนี้พูดว่ายังไง "แล้วไงละคะ คือหนูต้องคืนพี่แจ็คให้เขาหรอ? ไม่อะคะ หนูรักของหนู!" เราได้ยินเราพูดไม่ออกเลย ไม่คิดว่า ผญ.ด้วยกันจะพูดคำแบบนี้ออกมา และสุดท้ายแฟนเราก็เลือกผู้หญิงคนนี้คะ เราก็ต้องยอมเสียสละให้เขาไปในเมื่อเขาไม่ได้เลือกเรา ช่วงเวลานี้เราแย่สุดๆ ไม่รู้จะพูดกับใคร แม้แต่พ่อกับแม่เรา เราก็ยังไม่กล้าโทร.หาไม่กล้าเล่าให้ท่านฟัง เราไม่อยากให้ท่านไม่สบายใจ ทุกครั้งที่พ่อกับแม่โทร.มาเราก็จะบอกว่าเราสบายดี พี่แจ็คดูแลเราดี"

"ก่อนที่เราจะคลอดน้อง เขาก็บอกว่าจะออกค่าคลอดให้ทุกบาท แล้วจะให้ค่าเลี้ยงดูทุกเดือน ค่าห้องก็จะจ่ายให้ แต่ระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันเขาไม่เคยออกค่าอะไรเลย และตั้งแต่ที่เขาเลือกโบว์เขาก็ไม่กลับมาห้อง เขาทั้งสองคนบล็อกเฟสเรา บล็อกไลน์ ไม่สนใจชีวิตที่อยู่ในท้องของเราเลย พอวันที่เราใกล้คลอด เราก็ฝากคนที่รู้จักกับเขาไปถามค่าคลอด เขาก็บอกว่าไม่มี เราก็เลยตัดสินใจโทร.หาแม่เขาเลย จากที่ไม่เคยคุยไม่เคยโทร.หา เราก็เลยโทร.ไปพูดเรื่องค่าคลอด แม่เขาก็พูดกลับมาคำเดียวว่าไม่มีเหมือนกัน ก็คนมันไม่มีจะให้ทำยังไง แล้วแจ็คบอกว่าถ้าลูกคลอดให้เราเอาลูกไปตรวจดีเอ็นเอ เพราะเขาบอกว่าลูกที่อยู่ในท้องไม่ใช่ลูกของเขา สุดท้ายแล้วค่าผ่าคลอด ค่าใช้จ่าย ครอบครัวเราก็ต้องจ่ายเองทั้งหมด ซึ่งเขาไม่มารับผิดชอบแต่อย่างใด วันที่ 22 เราคลอดลูก เขาก็ไม่มาหา ไม่มาดูสักนิด จนกระทั่งออกจากโรงพยาบาลแล้วกลับมาอยู่ห้อง เขาก็ยังไม่มาหาสักนิด ขนาดหอที่เขาอยู่อยู่ใกล้ๆ กัน เราไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงใจร้ายใจดำกับลูกของเขาได้ถึงขนาดนี้ น้องได้ 9 วันแล้วคะ เราและลูกขอบคุณที่มาอ่านกระทู้ของเรา ใครจะว่าเรามาประจานตัวเองหรืออะไรก็ไม่เป็นไรนะคะ เราแค่อยากระบายความรู้สึกของเรา ขอบคุณค่ะ"

หลังจากที่เนื้อหานี้ได้ถูกแชร์ต่อในโลกโซเชียล ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และได้มีบางคอมเมนต์ได้ระบุว่า ผู้ชายในข่าวดังกล่าว คือหนุ่ม ชื่อเล่น จ. ชื่อจริง ณ. ซึ่งเป็น นักแสดงจากซีรี่ส์ดังภาคต่อ "Love Sick Season 2" ทำให้ล่าสุด ฝ่ายนักแสดงหนุ่มได้วอนขอให้อย่าตัดสินและฟังความข้างเดียว โดยโพข้อความสต์ระบุว่า

"อย่าเพิ่งตัดสิน และ ฟังความข้างเดียว..เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 28 พฤษภาคม 2558 ก่อนที่น้องจะไป รพ.นนทเวช ผมได้พบน้องและอุ้มน้อง เนื่องจากตัวแม่ น้องบีเอ็ม ไม่ต้องการที่จะให้ผมพบน้อง ผมจึงต้องแอบมาพบน้องเอง"