นางเอกดอกท้อหาเพื่อน ลงนรก

ย่างเข้าฤดูผสมพันธุ์ เอ๊ย ฤดูหนาว ทีไร เราเป็นได้เห็นคู่รักหลายคู่ ควงแขนเดินเข้าประตูวิวาห์กันคู่แล้วคู่เล่า

โดยเฉพาะคนวงการบันเทิงก็พร้อมใจกันมีข่าวดีกันในช่วงเดือนนี้ตั้งหลายคู่
ดูอย่างอาทิตย์ก่อนโน้น วันเดียวกันมีทั้งงานหมั้น งานแต่ง ปาเข้าไป 3 คู่ ทำเอาดาราวิ่งรอกกันขาขวิดและข่าวดีนี้ยังจะมีเลยไปถึงเดือนหน้า และถึงต้นปี 51 อีกด้วย

อย่างไร “เจ๊เขียว” ก็ดีใจด้วย เพราะ “ข่าวดี” ย่อมดีกว่า “ข่าวร้าย” แน่นอน

พูดถึง “ข่าวดี”แล้วก้มีดาราอยู่คู่หนึ่งที่รักกันมาหลายปี แฟนๆก็ลุ้นกันตัวโก่ง ได้แต่งหรือไม่ได้แต่งสุดท้ายก็เรียบร้อยโรงเรียนการแสดงไปละ ฮ่า! รอแต่เมื่อไหร่จะ “ปั๊ม” ไอ้ตัวเล็กออกมาให้ได้เฮกันอีกทีเท่านั้นแหละ แต่กว่าที่คู่นี้จะลงเอยแบบ “แฮปปี้เอนดิ้ง” อย่างนี้ “เจีเขียว” ขอบอกว่า นิยายรักเกือบจะอวสานแบบ “โศกนาฏกรรม” ซะแล้ว !!ไม่ถึงกับตกตายตามกันไปหรอก แต่ก็พูดได้ว่าแย่ยิ่งไปกว่านั้น เพราะเหมือนกับ “ตายทั้งเป็น” ทีเดียว !!

เรื่องของเรื่องก็คือว่า นางเอกสาวชื่อ น. ซึ่งเพิ่งใช้คำนำหน้าว่า “นาง” หมาดๆ

เธอมีเพื่อนดาราคนหนึ่งแนะนำให้กระทำเรื่องชั่วๆเหมือนกับเรื่องที่เธอเคยทำไว้ !
เพื่อนดารานิสัยเลวคนนั้นมีชื่อว่า ค. เป็นนางเอกชื่อดังเหมือนกัน อ๊ะ ไม่ใช่สิต้องเรียกว่า “เคยดัง” ตะหาก “ดังมาก” ซะด้วย วันหนึ่ง 2 นางเอกเธอเดินป๊ะกันในห้างดังกลางกรุงแถวสยามฯ ก็เลยชวนกันไปนั่งกินข้าวในร้านอาหารหรู
ช่วงนั้นรออาหารนางเอก ค. ก็เผยโฉมนางมารร้ายตัวตนจริงที่ซ่อนไว้ข้าวใน
แรกเริ่มก็ถามถึงแฟนหนุ่ม ธ. ก่อน “เป็นไงมั่งล่ะ เมื่อไหร่จะแต่งซักที”น. ตอบ “ไม่รู้ ธ. มัน.....เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละ”“อายุเรามากแล้วนะ ชั้นว่าเธออย่ารอแบบเลื่อนลอยยังงี้เลย” นัง ค. กระตุ้น“เอ้า จะทำยังไงล่ะ” น. ย้อนถามแบบไม่ต้องการคำตอบ “เราก็อยากแต่งแหละ เบื่อนักข่าวเจอหน้าถามอยู่นั่นแหละ เราจะตอบยังไงล่ะ...ชั้นอยากแต่ง แต่ผู้ชายมันยังไม่อยากอย่างนั้นเหรอ โอ๊ย พูดเรื่องนี้แล้วเครียดเลย ! ”

 นังมาร ค. สบช่องก็ยุทันที

“เอางี้สิ ปล่อยให้เบนโลมันซะเลย รับรองเค้าต้องรับผิดชอบ”ฝ่าย น. พอได้ยินประโยคนี้ถึงกับอึ้งแดก !แหม น. อยากย้อนถามกลับไปนักเชียวว่า “อ๋อ เหมือนอย่างเธอน่ะเหรอ ?”แต่เกรงใจ ด้วยความทีมีสกุลรุนชาติ ไม่ใช่ “ไพล่สถุน” อย่างกับหล่อน ก็เลยนั่งกัดริมฝีปากตัวเอง ก่อนตอบไปแบบนิ่มๆว่า“ไม่เอาดีกว่า ชั้นอายคน”นึกว่า นัง ค. จะหยุด และสำนึกตัวว่า “เค้าแอบด่าเอานะ หล่อนน่ะหน้าหนา ไร้ยางอาย” แต่หล่อนกลับยุต่อ “ไม่เห็นต้องอายเลย เดี๋ยวนี้ใครๆเค้าก็ทำกันทั้งนั้น”
“ใช่ซี้ อย่างเธอล่ะสิ ใช่มั๊ยล่ะ ? ” อยากจะตอกหน้ากลับไปด้วยคำนี้ แต่ก็ได้แต่คิดในใจเท่านั้นคำพูดที่ออกจากปากคือ “สงสารแม่ ทำไม่ได้หรอก”!!!!!!!!!!!!!!!!????????

คำสนทนาในวันนั้นระหว่างทั้งสองได้บอกอะไรเจ๊หลายอย่าง !

และนี่อาจจะเป็น “ตัวช่วย” ที่ “เฉลยคำตอบ” ถึงข่าวฉาวโฉ่ใหญ่โตมโหฬารเมื่อปีก่อนของหล่อนว่าจู่ๆทำไมจึง “ตะลุ๊บตุ๊บป่อง” ขึ้นมาก็เล่นคิดซะยังงี้นี่เล่า !ที่จริงข้อสันนิษฐานนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะ “เลื่อนลอย” ซะทีเดียว เพราะ “เจีเขียว” ยัง(เสือก) สืบรู้มาอีกว่า ก่อนหน้านี้ก็เคยมีหมอดูพระชื่อดังได้เคยเตือนไว้ พระหมอดูองค์นี้ดังมากอยู่วัดแถวกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร มีชื่อเหมือนนักร้องที่ฟังดูเท่ห์
นัง ค. เคยเอาดวงมาให้หลลวงพ่อดู ท่านตรวจดวงชะตาแล้วก็ฟันธง เอ๊ย ทำนายเปรี้ยงว่า“ดวงสีกามีเคราะห์หนัก” !!“ถ้าไม่ตายโหง ก็ถึงขั้นตายในวงการบันเทิง เสียชื่อเสียงไม่มีวันฟื้นคืน !”

ซึ่งในตอนนั้น ค. ก็มีผู้ชายอยู่ใน “ฮาเร็ม” ไว้ให้เลือกไม่น้อย

โดยหนึ่งใน “ผู้ชายของหล่อน” ก็มี “ผู้ชายปีชวด” อยู่ด้วยซึ่งไปๆมาๆหล่อนก็พลาดท่าเสียทีให้แก่ “สเปิร์ม” ของ “ผู้ชายปีชวด” จริงๆน่ะแหละ ตอนแรกเจ๊ก็ยังคิดนะว่า ค. เธอคง “เสียท่า” ถ้าไม่ถูกปล้ำ ก็คงโดนแอบ “เจาะมีชัย” แต่เดี๋ยวนี้ชักไม่แน่ ตั้งแต่ได้รู้เรื่องที่หล่อนแนะนำ “วิธีจับผู้ชาย” ให้เพื่อนนี่แหละ ซึ่งนั่นอาจเป็นวิธีที่ ค. เธอใช้ “จับผัว” ก็ได้

ปล่อยให้ตุ๊บป่องซะ !

ที่เขาว่า “มารยาหญิงร้อยเล่มเกวียน” นั้น เจ๊ว่ายังน้อยกว่า ค. ซึ่งคาดว่าคงสะสมไว้เป็น “พันเล่ม” โชคดีของ “นางเอก น.” ที่ไม่หลงคารมของ “นังมารร้าย” ในคราบ “เพื่อนผู้หวังดี” เพราะถ้า น. หลงเชื่อ และทำตามจน “ตุ๊บป่อง” ล่ะก็
วันนี้แทนที่จะได้เห็น “รอยยิ้มแห่งความปิติ” ในชุดเจ้าสาวแสนสวย เราคงได้เห็น “คราบน้ำตา” บนสองแก้มของ น. แทน และชีวิตก็คงไม่มีวัน “พลิกฟื้น” เหมือนกับหล่อนคนนั้น !

นี่แหละน๊าที่เค้าเรียกว่า.....
“ตกนรกคนเดียวไม่พอ ยังจะลากเพื่อนไปลงนรกด้วย”