แฉ ลูกนักการเมือง หักเหลี่ยม ขุนแผน

สถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้ อยู่ในช่วง วิกฤต อีกครั้ง


ก่อนหน้านี้บรรดาเกจิ และกูรู ด้านเศรษฐกิจและการเมือง “ฟันธง” กันว่า หลังจากมีคำพิพากษา “คดียุบพรรค” ออกมา ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองไหน “ได้หรือเสีย” บรรยากาศเมืองก็จะ “คลี่คลาย” ไปในทางที่ดีขึ้นเพราะหมดความคลุมเครือ จะได้รู้ทิศทางว่าจะเดินอย่างไรกันต่อไปประกอบกับ “แกนนำพรรค” ก็ออกมาขานรับกันหน้าสลอนว่า“น้อมรับคำพิพากษา” และรับรองว่า “จะไม่มีการก่อม๊อบต่อต้าน”



ทุกอย่างดูช่างราบรื่นเหลือเกิน


แต่หารู้ไม่ว่านั่นคือ “ลมสงบก่อนพายุจะมา” ทันทีที่คำพิพากษาออกมา มีฝ่ายที่ได้ประโยชน์ และเสียประโยชน์ พรรคที่เสียประโยชน์ก็ออกมา “ป่วนเมือง” มีการ “ต่อสายน้ำเลี้ยง” ข้ามชาติ ทุกประการต้องให้ประเทศชาติวุ่นวาย กลายเป็น “กลียุค”เพื่อจะได้ใช้เป็น “เงื่อนไข” ในการ “ปูพรมแดง” เรียกร้องให้ “อดีตนายกรัฐมนตรี” คัมแบ๊ก


ถึงแม้ว่าสิ่งนั้นจะต้องแลกมาด้วย เลือด ของพี่น้องประชาชนก็ตาม!


ขณะที่การเมืองกำลังกลียุค หันมามองวงการโทรทัศน์บ้านเราบ้าง ยังมีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองบางคน “ว่างมาก” นั่ง “บีบสิว” เบื่อๆก็ลุกขึ้นมาจะจัดระเบียบจอแก้วอีกแล้ว โดยเตรียม “จัดเรต” รายการโทรทัศน์ใหม่หมด อ้างว่าทำเพื่อเด็ก ซึ่งหากทำตามไอเดียของท่านรัฐมนตรีล่ะก็ ผังรายการ “ชิบหาย” แน่! ที่จริง “เจ๊เขียว” ก็ไม่ได้มีเอี่ยวอะไรกับผลประโยชน์ของเจ้าของสถานี หรือเจ้าของรายการหรอก แต่มันมองเห็นถึงความปั่นป่วนวุ่นวาย เพราะมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆอย่างที่ท่านรัฐมาตรีคิด

ความคิดของท่านรัฐมนตรีก็คือ รายการเรต “น” อันหมายถึง รายการที่มีเนื้อหาที่ผู้ใหญ่คอยแนะนำเด็กและเยาวชนนั้น “ห้ามออกอากาศก่อนเวลา 2 ทุ่ม”

เอาเฉพาะแค่มาตรการนี้อย่างเดียวเท่านั้น ทุกสถานีก็แทบจะ “จอขาว” แล้วเพราะเอากันจริงๆ เกือบทุกรายการตอนนี้ทุกสถานีก็พะเรต “น” ไว้กันเหนียวกันอยู่แล้ว เอาง่ายๆ ขนาดการ์ตูนที่เด็กตื่นเช้ามานั่งสลอนจ้องหน้าจอกันนั้นน่ะ ต้องมีอันต้องระเห็จไปฉายตอนกลางคืนโน่น เจ๊ก็ไม่เข้าใจว่าท่านรัฐมนตรีจะ “ติดหนี้แค้น” อะไรนักหนากับโทรทัศน์ ซึ่งหากมีการนำมาตรการนี้มาใช่จริงๆ เจ๊พูดได้คำเดียวว่า “กลียุค” แน่นอน!!


เอาล่ะ พักเรื่อง กลียุค ของบ้านเมืองและวงการโทรทัศน์ไว้แค่นี้


เพราะ “เจ๊เขียว” มีเรื่องร้อนๆของ “ลูกนักการเมือง” รออยู่ เขามีชื่อว่า “เฮีย อ.” รูปไม่หล่อ แต่พ่อรวย แค่นี้ก็เพียงพอที่จะมีคุณสมบัติ “เสเพล” แล้ว อ. เป็นเพลย์บอยแถวหน้า ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น “ขาใหญ่” ได้รับการนับหน้าถือตาจากนักเที่ยวกลางคืนทั้งหลาย รวมทั้งวงการบันเทิง เริ่มจากได้คนวงการบันเทิงเป็นเมีย ตามด้วย “เมียน้อย” ซึ่งก็สรรหาคนวงการบันเทิงอีกเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ได้ นางแบบหุ่นไม้เสียบลูกชิ้นชื่อ ก. มาเป็น “เมียเก็บ”

พอข่าวชักเริ่มฉาวหนัก กลัวอีเมีย “หน้าป้า” ที่บ้านใหญ่จะตาม “แหกอก”

เสี่ย อ. เลยลงทุนส่ง ก. ไปเรียนต่อปารีส นัง ก. นี่ก็ “เขี้ยวลากไส้” อยู่ทางโน้นก็ “ลวงโลก” ว่าตัวเองเป็นลูกผู้รากมากดี” เศรษฐีร้อยล้าน ผลาญเงินเสี่ย อ. อย่างกับพิมพ์แบงค์เองงั้นแหละ ซื้อบ้านในย่านคนรวย ซื้อรถสปอร์ตขับ ยกระดับเป็นไฮโซ ไอ้เสี่ย อ. ลงทุนไปเยอะ เลยต้องขยันบินไป-กลับ เพื่อไปทวงทุนคืนบ้าง


ไม่ต่างอะไรกับ กระหรี่อินเตอร์


เพียงแต่เธอใช้ “จิ๋ม” แลก “ปริญญา” ช่วงที่ ก. ไม่อยู่ที่เมืองไทย เสี่ย อ. ก็ยังหาสาวมาปรนเปรอสวาทไม่ขาดช่วงจนกระทั่งได้ฤกษ์ สาว ก. กลับ เธอก็ถูกสื่อจับตามองอีกครั้ง ทำให้เสี่ย อ. เจ็บใจ เพราะเสียเงินไปมหาศาล แต่พอ ก. กลับมา ไม่ทันได้เก็บทบต้นทบดอกให้คุ้มก็ไปซะแล้ว รสนิยมเรื่องสาวของเสี่ย อ. ยังคงต้องประเภทหุ่นซุปเปอร์โมเดล จึงไม่แปลกใจที่คว้าเอา นางแบบ ย. มาแนบข้าง

พูดถึง ย. นี่มีประสบการณ์รักโชกโชน

ผ่านศึกทั้งไทย-เทศมาทุกกระบวนแล้ว ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทำให้เสี่ย อ. ถึงกับหลงหัวปักหัวปำหลงจนถึงขั้นมีหนุ่มไหนเข้าใกล้ อ. ไม่ได้ เป็นต้องหาเรื่อง “ตีกบาล” แม้แต่เพื่อนที่เคยกินเคยเที่ยวด้วยกันมายังเอือมระอา ไม่อยากจะคบหาพาทีด้วย เพราะไม่อยากมีเรื่อง


พอไม่มีใครให้หาเรื่อง เสี่ย อ. ก็หันมาหาเรื่องเอากับ ย. แทน

บางวันเมาก็ใช้ ย. แทนกระสอบทราย สาวหมัดใส่อั้กๆๆ พอทนไม่ได้ที ย. ก็หนีออกมาหาเพื่อนนางแบบ ร้องไห้ด่าว่าสาปแช่งเสี่ย อ. แต่พอฝ่ายโน้นตามมา ย. ก็ห้อแร่ดตามเขากลับไปซะงั้น ที่จริงก็ไม่ได้ติดใจรสเซ็กซ์อะไรหนักหนา แต่ที่ศรัทธาคือ “เงินในกระเป๋า” ของ เสี่ย อ. ตะหาก

ถ้าเป็นไอ้หนุ่มกระเป๋ากลวงน่ะเหรอ ย. คงหนีเตลิดไปนานแล้ว

แต่นี่ ย. ยังไม่รู้นะเนี่ยว่าตัวเองกำลังจะถูก “โละ” !!ลองจับตาดู เสี่ย อ. สิ สังเกตุดีๆ ระยะนี้หนีจากผับที่เคยนั่งเดิม เปลี่ยนมาสิงอยู่ในซอยทองหล่อซะแล้ว นั่นก็เพราะว่าในซอยนี้มีร้านเสื้อผ้าของ ดาราสาวชื่อ ม.  ซึ่งเธอคนนี้ผิวขาว หน้าสวย แถมหุ่นก็ยังตรง สเปกเป๊ะ !


เอา ย. มาเปรียบเทียบแล้ว เหมือน “นางกากี” กับ “นางฟ้า”

คือประจวบเหมาะช่วงนี้มี ม. เธอเพิ่งเลิกกับ ดาราหนุ่มชื่อ น. เพราะความเจ้าชู้ ซึ่งเสี่ย อ. ก็กะอาศัยช่วง “เว้นวรรคหัวใจ” ของ ม.เนี่ยแหละ เข้าไป “ทำคะแนน” ปกติเนี่ยดาราหนุ่ม น. ก็ประเภท “หมาหวงก้าง” เหมือนกัน ชอบกร่างไปทั่ว แต่งานนี้สงสัยต้องทำตัวสงบเสงี่ยม ได้แต่มองดูอดีตแฟนถูกคนอื่นจีบตาปริบๆ เพราะถ้าขืนซ่า มีสิทธิ์ “เป็นผีไม่มีญาติ ” !


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นิตยสารทีวีอินไซต์

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์