X-Ray สาวเซ็กซี่ลูกตาล-อาริษา

เกิดมาเป็นสาวเซ็กซี่ไปไหนมาไหนมีแต่คนเฝ้าจับตามอง เหมือนกับสาวเซ็กซี่มาแรง “ลูกตาล-อาริษา วิลล์” ที่นาทีนี้ต้องบอกว่า เธอแรงจริงๆ

ทั้งในเรื่องของความสวยเซ็กซี่ และ ในเรื่องของข่าว(คาว)ต่างๆ อินฟราเรดซูม’ เลยเชื้อเชิญมาเป็นแขกเยือนคอลัมน์เนื่องในโอกาสครบรอบ 5 ปี เพื่อเปิดโอกาสให้เธอได้พูดถึงข่าวต่างๆ อย่างเต็มที่  นอกจากนี้ยังได้สัมผัสตัวตนที่แท้จริงของเธอว่า แท้ที่จริงแล้วเซ็กซี่อย่างที่เห็นกันตามสื่อหรือเปล่า อยากจะรู้จัก ‘ลูกตาล’ มากกว่านี้ก็ต้องมาเปิดใจฟังเธอ...


ผลงาน ?

“ละครตอนนี้ผู้ใหญ่กำลังดูบทให้อยู่ แล้วตอนนี้จะมีแข่งรถของโตโยต้า ปีนึงจะมี 5 สนาม แข่งไปแล้ว 2 สนาม มีถ่ายเอ็มวีบ้าง เดินแบบบ้าง โชว์ตัวบ้าง งานละครที่เป็นหลักๆ ตอนนี้ก็ดูบทอยู่”

บทที่ได้รับจะเป็นนางร้ายตลอด ?


“ก็คงจะเป็นแบบนั้น เพราะเหมือนกับว่าลุกส์เรามันเป็นนางร้ายไปแล้ว การที่ละครจะยื่นบทคนดีมาให้มันน้อยมากเลย ทุกวันนี้เขาวางตัวนางร้ายก็จะนึกถึงชื่อเรา แต่ใจนึง ตาล อยากเล่นบทอื่นบ้างเหมือนกัน ไม่ได้เล่นได้แต่ร้าย แต่ก็เหมือนกับว่า คนจดจำเราได้เพราะบทนี้ ตาล รู้สึกสนุกกับบทนี้ แต่จริงๆ แล้วเล่นได้ทุกบท”

คนจะเห็นเซ็กซี่จากละคร ?


“ใช่ค่ะ ด้วยงานด้วย นางร้ายด้วย ลุกส์ตาลอาจจะดูแรง อาจจะเห็นตามแฟชั่น ถ่ายแบบ เล่นละคร มันก็จะว่าเขาไม่ได้ เขามองว่า เราเซ็กซี่ เราก็ถือว่า เป็นคำชม เราสามารถพรีเซ็นต์งานให้คนมองว่า เซ็กซี่ได้ ถือว่าประสบความสำเร็จ”


แล้วคิดว่า ตัวเองเซ็กซี่หรือเปล่า ?

“ไม่ค่ะ ตาลว่า คนอื่นเซ็กซี่กว่าตาลอีก ถ้าให้มองตัวเอง เฉยๆมาก แต่ไม่รู้ว่า คนอื่นจะมองตาลยังไง โอเค เวลาเราแต่งตัว อาจจะมีเซ็กซี่บ้าง แต่เวลาปกติ ก็ไม่เห็นจะเซ็กซี่ตรงไหนเลย”

ไอดอลเซ็กซี่ในดวงใจ ?


“ตาล ชอบ พี่ลูกเกด เมทินี เพราะว่าเขาเก่ง ไม่ได้เซ็กซี่อย่างเดียว เก่งด้วย เคยร่วมงานกับเขาตอนถ่ายปฎิทิน พี่เขาเป็นผู้หญิงที่ปราดเปรียว ทันสมัย ทำทุกอย่างเองหมดเลย ถ้าเป็นฝรั่งก็ชอบ เจสสิก้า อัลบา รู้สึกว่าเขาสวยมาก ไม่ได้เซ็กซี่อะไร แต่เวลาที่เขายิ้ม ที่เขาพูด มันจะออกมาเลย ไม่ได้เป็นแบบแกล้งทำ ตาลว่า เซ็กซี่แบบนั้นน่ารัก”

โดนเม้าท์ว่า เวลาออกงานก็แต่งเซ็กซี่ ให้ตัวเองเป็นที่รู้จัก ?


“มันเป็นเรื่องปกติ คนเราจะพูดอะไรก็พูดได้หมด จะพูดอะไรเมื่อไหร่ก็ได้ จะพูดให้คนนั้นคนนี้เป็นอะไรก็ได้ ไปห้ามไม่ไห้พูดก็ไม่ได้ ทุกวันนี้เหมือนปลง ใครอยากพูดอะไรก็พูด ตาลก็เป็นของตาลแบบนี้ แค่คนรอบข้างเข้าใจแค่นั้นพอ”


อย่างนี้ต้องลดดีกรีความเซ็กซี่หรือเปล่า ?

“ตาล ไม่ได้อะไรกับเรื่องพวกนี้แล้ว ไม่จำเป็นต้องมาลด หรือ เพิ่มเพราะใคร มันอยู่ที่งาน คือ ถ้างานนั้นทางผู้ใหญ่สกรีนแล้วว่า ไม่มากไป หรือ ไม่ได้น่าเกลียดเกินไป โอเค ตาล ก็รับได้ ถ้าต้องมานั่ง..อุ๊ย ไม่เอาแล้วเพราะแค่โดนกระแส ตาล ไม่แคร์ ถือว่า ทำงานแลกกับเงิน มีภาระต้องทำตอนนี้ ไม่ใช่ว่า แก้ผ้า เพื่อแบบเงินมาผ้าหลุด ไม่ได้มายด์กับตรงนั้น แต่คนคิดกันมากเกินไป อย่าไปใส่ใจมันเลยค่ะ”

ตัวตนจริงๆ เป็นแบบไหน ?


“ตัวตนจริงๆ ของ ตาล จะเป็นคนที่ไม่ค่อยพูด แต่เข้ากับคนง่าย ไม่ค่อยไปวุ่นวายอะไรกับใครเท่าไหร่ เป็นคนที่รักครอบครัว แล้วก็มีความขี้เล่นบ้าง แต่ไม่ใช่คนที่จะสร้างความเดือดร้อนให้ใคร”

ตั้งแต่เข้าวงการมา มีข่าวในแง่ลบตลอด ?


“แรกๆ ก็อาจจะมองว่า ทำไมเขามองเราแบบนั้น อยู่เฉยๆก็มีข่าวออกมาให้เราคิดมาก รู้สึกเสียใจเหมือนกัน แต่มาหลังๆ รู้สึกว่า เดี๋ยวมันผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ถ้ามันไม่ใช่ความจริง วันนึงคนก็จะหยุดพูดกันไปเอง ถ้ามันเป็นความจริงจะออกมายอมรับ จะออกมาพูด ค่อนข้างจะเป็นคนตรงๆ มันก็มีหลายข่าวเหมือนกันที่ออกมาแล้วมันไม่ใช่เรื่องจริง แต่ก็มีคนที่เชื่อว่า เป็นเรื่องจริง มองว่า ตาล อย่างนั้นอย่างนี้ แค่อ่านข่าวก็เชื่อ จริงๆ อยากให้มองลึกกว่านี้ แต่ว่ามันก็ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ให้ใครดู แค่ให้คนรอบข้างเรารู้ก็พอแล้ว”



มีน้อยใจมั้ย ที่คนอ่านข่าวแล้วเชื่อตาม ?

“ก็มีค่ะ คนเราต้องอยากให้มีแต่คนรัก บางเรื่องที่เราไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ไปสัมผัสกับมันเลย แต่ดันมาเป็นข่าว แล้วคนกลุ่มหนึ่งเชื่อกับข่าวนั้น มันก็น้อยใจ ไปเอามาจากไหนถึงไปเชื่อ ทั้งๆ ที่เราก็เป็นอย่างนี้ อย่างมีข่าวตอนเล่นน้ำสงกรานต์ที่ต้องเย็บ 3 เข็ม ทำไมไม่มองว่า เป็นอุบัติเหตุ ทำไมต้องมองว่า ไปเมาแล้วลื่นล้ม มันน่าน้อยใจ ทำไมต้องมองกันไปแบบนั้น คนจะมองในแง่ลบตลอด อยากจะให้มองในแง่บวกกันบ้าง”

ข่าวไหนที่คิดว่ารุนแรงสุด ?


“ล่าแต้ม ตาลว่า มันแรง ตอนนั้น คือ ช่วงที่เริ่มมีชื่อเสียงด้วย เลยรับไม่ค่อยได้ ทุกวันนี้ยังมีหลายเล่มเหมือนกันที่เขียนว่า เป็นนางร้ายล่าแต้ม มันไม่ได้ฟังแล้วดูดีเลย แล้วก็ข่าวที่กินเพื่อนๆในดัชชี่อีก มันแรง ตาลก็มีครอบครัว คุณใช้อะไรในการตัดสินว่า ตาล เป็นแบบนั้น ทุกวันนี้มานั่งอ่านหนังสือ เห็นคำว่านางร้ายล่าแต้ม ตาล จะไปพิสูจน์ให้เขาเห็นยังไงว่า มันไม่ใช่ มัน คือ ข่าวที่ทำให้รู้สึกเสียใจที่สุด แต่ทุกวันนี้เวลามันผ่านไปก็พยายามไม่คิดอะไรมาก อย่าไปสนใจอะไรเลยดีกว่า”

พอมีข่าวแบบนี้ออกมา ครอบครัวว่ายังไงบ้าง ?


“ตอนแรกเขาก็โกรธๆ เหมือนกัน บางทีเราก็อยู่บ้านอยู่ดีๆ มีข่าวว่า เราไปทำอะไรแบบนั้น แล้วมีอยู่ช่วงนึงที่ข่าวมันออกมาทุกวันๆ คุณแม่จะให้กำลังใจ เลยค่อยข้างจะดีใจ เพราะมีกำลังใจที่ดี”


มีข่าวเยอะๆ ก็โดนว่า สร้างกระแส ?

“ตาล ไม่เคยสร้างกระแสให้กับตัวเอง มีช่วงนึงที่ตาลออกงานทุกวัน ต้องมานั่งตอบคำถามกับเรื่องเดิมๆ พรุ่งนี้ก็ไปงานอีก เขาจะเอาเรื่องเดิมมาสัมภาษณ์มันก็ไม่ได้ มันต้องหาเรื่องอื่นๆ ตาล เคยเจอจังๆครั้งนึง อยู่ดีๆมาคิดหาประเด็นกันตรงนั้นเลย แล้วมาถามตาล อ้าว ตาลได้ยินมากับหูเลย เขาสร้างประเด็นให้เราเอง ใครที่หาว่า เราสร้างกระแสก็ปล่อยไปเถอะ ในเมื่อกระแสที่โดนไป มันก็คือที่ ตาล เล่าไปเมื่อกี้ คิดในทางที่บวกเขาก็ยังนึกถึงเรา”

หัวใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?


“ไม่มีอะไรค่ะ ไม่ได้คุยกับใคร หรือ ดูใครเป็นพิเศษ แต่ว่ามีคุยบ้าง คุยเป็นเพื่อนกันหมด ไม่ได้รู้สึกว่า ดูใจคนนี้อยู่ ต้องโทรหากันทุกวัน ไม่มีค่ะ คือเป็นเพื่อน”

เพราะอะไร ถึงยังไม่เปิดรับใครเข้ามาในชีวิต ?


“ไม่ได้บอกว่าปิด หรือไม่ได้เปิดรับใคร แต่ว่าถ้ามันจะมี มันก็มีมาเอง ไม่อยากจะมานั่งรอ เมื่อไหร่จะมีแฟน เมื่อไหร่จะมีคนเข้ามา เหมือนยิ่งรอมันก็ยิ่งแบบไม่รู้จะรอไปเพื่ออะไร ตอนนี้แฮปปี้กับเรื่องงานกับครอบครัว”

เลือกเยอะ ?

“ไม่ได้กะเกณฑ์อะไรมากมาย ไม่มีสเป็คเลย แต่ว่า คือ ขอแค่เบสิคๆ ไม่โกหก จริงใจกับเรา รักเรา รักครอบครัว แค่นั้นพอแล้ว เบสิคแค่นั้นพอ ถ้าอย่างนี้ถือว่ากะเกณฑ์เยอะเกินไป ก็คงอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิตดีกว่า อย่างที่บอกว่า ถ้าพร้อมจะมีก็มี เป็นคนไม่ปิดอยู่แล้ว ถ้ามีก็จะบอก”


ข่าวกับ ‘ไผ่-พาทิศ’ ?

“ไผ่ เหรอ เป็นเพื่อน อยู่ดัชชี่ค่ายเดียวกัน เจอกันตามงานบ่อย ไปแข่งรถก็ไปแข่งด้วยกัน เป็นเพื่อนกันจริงๆ ไม่ได้มานั่งกิ๊กกัน มีข่าวกับคนโน้นคนนี้เยอะเหมือนกัน ไม่ค่อยเป็นความจริงเท่าไหร่ เป็นคนที่ไปไหนมาไหนไม่ได้ปิดอะไรอยู่แล้ว ถึงจะเป็นเพื่อนผู้ชายก็ไม่ปิดอะไรอยู่แล้ว เพราะว่า บริสุทธิ์ใจ ไม่ได้ทำอะไรที่ผิดกฎหมายในที่สาธารณะ เลยไม่ค่อยมายด์กับเรื่องนี้เท่าไหร่”

มีข่าวออกมาว่า ไปพัทยาด้วยกัน กินข้าว ดูหนังด้วยกัน ?


“ไม่มีค่ะ ไม่มี ไม่รู้ข่าวออกมาได้ไง ล่าสุดไป สุราษฎร์ฯ ตาลไปกับไผ่ที่ไปกันสองคน และ มีทีมงานโตโยต้า แต่ไม่ได้ไปนั่งสวีทอะไรอย่างนั้น เพราะเราไปโปรโมท ก่อนเราจะไปแข่งรถ ไปโปรโมทสนาม พอเรากลับมาจากนั้นอาทิตย์หนึ่งก็มีข่าวว่า ไปพัทยากัน ไม่ได้ไป ไม่มีไปสวีทอยู่ชายหาดอะไรอย่างนั้นแน่นอน เป็นเพื่อนกัน ข่าวที่ออกมาก็อยากให้ฟังหูไว้หู แบบว่า อย่าไปอ่านแล้วเชื่อเลย”

“มีเยอะมากเลยข่าว ไม่รู้ว่า มาได้ยังไง อย่างกับ พี่บีม คือ ไม่จริงเลย 100% กับ บอล ก็รู้จักสนิทกัน อยู่กลุ่มเดี่ยวกัน แต่ไม่ได้เกี่ยวกับตาล เขาไม่ได้มาจีบตาล เราเป็นเพื่อนของเพื่อนเขา ไปไหนมาไหนก็จะไปกันประมาณ 4-5 คน เลยเป็นที่จับตามองมั้ง ข่าวออกมา ทุกคนออกมาเคลียร์ชัดแล้ว”

คิดว่า ผู้ชายที่เข้ามา เขาเข้ามาเพราะเห็นเป็นสาวเซ็กซี่หรือเปล่า ?


“ มันก็มี ยอมรับว่า คิดเหมือนกัน เหมือนกับเราต้องสกรีนเยอะเหมือนกัน แต่ก่อนยังไม่เซ็กซี่ ยังไม่มีชื่อเสียงขนาดนี้ แต่ตอนนี้ทุกวันนี้ คนที่เรารู้จักมาก่อน ทำไมเพิ่งจะมาทำเป็นคุยกับเรา ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็รู้จักกันมาตั้งนาน เพราะอะไร มันคิดได้หลายอย่าง แต่ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเอง มันทำให้เราต้องสกรีนผู้ชายดีๆ สกรีนลึกลงไปอีก จากที่เคยรู้จักกัน จากที่เคยมองไว้แค่นี้ มันต้องมองให้ลึก มองว่า มาไม้ไหน คิดกับเราแบบไหน คิดแค่เรื่องเซ็กซ์หรือเปล่า เพราะว่า ภาพเซ็กซี่ อาจจะดูว่า เป็นผู้หญิงง่ายหรือเปล่า”

คนมองว่า เป็นสาวเซ็กซี่ ดีหรือ ไม่ดียังไง ?


“มีทั้งดีและไม่ดี เพราะถ้ามองว่า เซ็กซี่ ตาล ก็จะมองว่า เป็นการชม แต่ว่า ถ้ามันไม่ดีเนี่ย ก็เพราะว่า คนจะมองว่าเราง่าย เลยแบบมันมีทั้งดี และ ไม่ดี เพราะฉะนั้นเนี่ยก็เซ็กซี่อย่างไรให้ปลอดภัยดีกว่า อย่างเวลาไม่ได้ไปงาน ตาล จะแต่งตัวเป็นตัวของตัวเอง ไม่ได้แหวกอกโชว์อะไรอย่างนี้ตลอดเวลา ไม่อย่างนั้นอันตรายมันก็เกิดขึ้นได้อยู่แล้ว ในชีวิตประจำวันไม่ได้ไปแต่งโป๊โชว์ใครทุกวันๆ เลยไม่อยากให้คิดว่า แบบเซ็กซี่แล้วง่าย” 

     อ่านกันจนเคลิ้ม ก็หวังว่าจะเข้าใจ ลูกตาล กันมากยิ่งขึ้น


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นิตยสารทีวีอินไซต์

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์