นังตูดใหญ่ หน้าไม่อาย !

กลับมาทำงานกันตามปกติกันหมดแล้ว หลังจากหยุดแบบบ้าเลือด 5 วันเต็มๆในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา
 
   ดาราหลายคนถือโอกาสที่กองถ่ายละครหยุดยาวก็ชวนแฟนไปสวีตกัน ซึ่งก็มีทั้งที่เลือกเที่ยวในเมืองไทย และอีกหลายคู่ที่เผาเงินด้วยการบินไปเที่ยวต่างประเทศ
 
   ไอ้คู่ที่ไปต่างประเทศเนี่ย “เจ๊เขียว” ขอถามหน่อยเหอะ หลับนอนกันอย่างไร ?
ก็ไม่พ้นหรอกที่เปิดห้องนอนมันเตียงเดียวกันนั่นแหละ
แล้วอย่างนี้ให้คนเค้าคิดอย่างไร ?

มันเกิดอะไรขึ้นเมื่อคู่รักหนุ่มสาวเปิดห้องนอนเตียงเดียวกัน หรือว่านอนเกาหลังกันจนหลับไป ?!

    เจ๊ว่าสมัยนี้เราลืมเลือน หรือพยายามจะทำตัวเป็นนหัวนอกมากจนเกินไป
ถึงขนาดไม่สนใจ “จารีต ประเพณี

เรื่องทำนองนี้กำลังเป็นเรื่องที่ธรรมดาสามัญกันไปซะแล้ว

วัฒนธรรม “อยู่ก่อนแต่ง” กำลังจะกลืนวัฒนธรรมอันดีงามของไทยไปหมด

การนอนค้างอ้างแรมของหนุ่มสาวที่ยังไม่แต่งงาน ถ้าเป็นสมัยเจ๊เป็นเรื่องที่ต้อง “ปกปิด” แอบกระทำเงียบๆ อย่าให้ใครรู้ เพราะ “น่าอาย”

ไม่ใช่ทำกันอย่างโจ๋งครึ่ม ไม่อายฟ้าอายดินเหมือนอย่างคนในสังคมสมัยนี้
“ดารา-นักร้อง” ถือเป็น “แบบอย่าง” ในหลายต่อหลายเรื่องสำหรับ เยาวชนและคนรุ่นหลัง

    อย่างกรณีมีนักร้องหญิงบางคน หรือบางวง แต่งตัว “นุ่งสั้นดันทรง” ก็กลายเป็นตัวอย่างให้แฟชั่นของเด็กสาวๆ หันมาแต่งตัวโป๊ตาม
การเห็นเรื่อง “นอนค้างอ้างแรมด้วยกัน” ของดาราก็เหมือนกัน ถึงในข่าวไม่ได้เจาะลึกไปถึงกับบว่นอนห้องเดียวกันหรือเปล่าก็ตามเหอะ
แต่นั่นก็เพียงพอให้คนอ่านสามารเดาได้ไม่ยาก

    เมื่อดารายังทำได้ไม่อายใคร แล้วทำไมคนอื่นจะทำไม่ได้
สังคมมันเสื่อมมากพอแล้ว ถ้าดารายังช่วยกระทืบซ้ำ อีกหน่อยคนเราก็คงไม่ต่างอะไรกับสุนัขที่นึกอยากจะ “เอา” ก็เอามันข้างถนน ไม่ต้องอาย

    พูดถึง “อยู่ก่อนแต่ง” เนี่ย “เจ๊เขียว” ขอลากไส้ดาราที่ชอบมั่ว อยู่กินเป็น “ผัว-เมีย” ทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงานแต่งการเป็นเรื่องเป็นราว
ผู้ชายเขาไม่แคร์หรอก แต่หญิงสาวสิ สะกดคำว่า “ศักดิ์ศรี” เป็นบ้างมั้ย?

    รายแรกเธอเป็นนางเอกสวยหุ่นดี “นมเป็นนม ตูดเป็นตูด” ตอนนี้กำลลังมีปัญหาอยู่กับแฟนหนุ่มสุดหล่อ จะเลิกมิเลิกแหล่
ก่อนหน้าที่จะมีแฟนเป็นตัวเป็นคนคนนี้นั้น ชีก็ผ่านผู้ชายมาแล้วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ
ซึ่งไอ้หนุ่มบะละฮึ้มที่เธอภาคภูมใจอยู่ทุกวันนี้ ก็เนผลพวงมาจากที่ชี ‘ได้น้ำ’ จากผู้ชายหลายหน้ามากระตุ้นต่อฮอร์โมนน่ะแหละ

    ถ้าอยากรู้ความแรดของหล่อนว่าคาไหนล่ะก็ ต้องเอาเรื่องตั้งแต่ตอนก่อนที่หล่อนจะเข้าวงการมาแฉกันเลย

ชีลงทุน ‘ร่อนหม้อ’ สังเวย ‘ตอปิโด’ ของตากล้องถ่ายละครเรื่องหนึ่ง

เออ....ถ้ด้วยเหตุผล เพื่อปูทางให้หล่อนได้เข้าสู่วงการบันเทิง ถึงจะเป็น ‘ข้ออ้าง’ ที่ ‘อัปปรีย์’แต่ก็ยังดีกว่าชี ที่มีเหตุผลแค่ ‘แก้คัน’!

แม้คุณแม่ชีจะพยายามเกาะหลังลูกสาวตลอดวลา เพราะรู้ฤทธิ์ว่า ‘ตอนติดสัด’ ขึ้นมาล่ะก็ ต่อให้ช้างมาลากก็ยังเอาไม่อยู่

แต่ถึงกระนั้นคุณแม่ก็ยังตามเธอไม่ทัน เธอสามารถาผู้ชายแก้คัดได้ตลอดเวลา

จนครั้งหนึ่งเธอเจอะเจอหนุ่มรุ่นระทวยหล่อรวย ‘สวยไม่เลือก’ อย่างเธอ ไม่รอช้า ‘ร่อนหม้อล่อเหยื่อ’ จนผู้ชายติดกับทันใด

ไอ้หนุ่มคนซื่อชื่อ ส. เป็นทายาทตะกูลไฮโซ มพ่อเป็น ‘เรียลเอสเตรท’ ทรัพย์สินหลายร้อยล้าน

พอ ส. ลุ่มหลงปุ๊บ ชีก็รีบเก็นกระเป๋าออกจากบ้านมาสิงอยู่บ้านผู้ชายดื้อๆเลย

พ่อ แม่ก็งงซิ ตื่นมาวันหนึ่ง ลูกชายเดินลงบันไดมากับ ‘อีสาวตูดใหญ่’พ่อก็จ้องตูดเธอตาเป็นมันอยากฟันใจจะขาด แต่ไอ้ลูกชายพามาแนะนำว่า “เมีย”

อยู่กินเป็นผัวเมียกันอย่างเงียบๆ ได้ไม่กี่เดือนดี พ่อก็ทนพฤติกรรมลูกชายที่ “ติดยา” ไม่
ไหว เลยส่งไปเรียนเมืองนอกเมืองนาซะเลย

“อีน้องตูดสามโคก”
ก็เลยต้องระเห็ดออกมาจากคฤหาสน์ร้อยล้าน ซมซานคลานกลับมาซุกหัวนอนอยู่บ้านซอมซ่อของตัวเองเหมือนเดิม

เมื่อไม่มี “ไม้หลักให้ปักบ่อ” หล่อนจึงร้องเพลง “เปิดหม้อ” ให้ดอสาธารณะต่อไป
แหม ทั้งสวยทั้งบะลั่กกั่กอย่างเธอหาผู้ชายไม่ยากหรอก แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่มีผู้ชายคนไหนเค้าเอาจริงจัง เพราะก็แค่ชั่วข้ามคืน หรือ “แก้หง่าว” เป็นครั้งคราวไป
จนกระทั่งมี “ลาโง่” ตัวหนึ่งผ่านเข้ามา

ถึงจะเป็น “ลาโง่” แต่ก็หล่อโคตร สาวกรี๊ดกันทั้งเมือง แต่ดันเลือก “น้องตูดใหญ่”
คงหลงชีปรนเปรอบำเรอกามเลยทำให้ “ลาโง่แต่หล่อ” ตัวนี้ยอมรับชีเป็นแฟน
ก็เช้าแผนของหล่อนน่ะสิ ทำเป็นมั่วนิ่มเข้าไปค้างอ้างแรมบ้านของผู้ชายบ้างเป็นบางครั้งในระยะแรกๆ

แต่บ่อยเข้าๆก็เล่นหอบกระเป๋าเสื้อผ้ามาอยู่ยาวเป็นเดือนๆเลย

จนมาระยะหลังๆนี่แหละที่ “ลาล่อ” เริ่ม “ไม่โง่” ซะแล้ว สงสัยจะดูร่ยการ “ตาสว่าง” บ่อย ก็เลยรู้พฤติกรรมของแฟนสาวว่า “ยังร่านไม่เลิก”

เรื่องของเรื่องคือเจ้า “ลาน้อย” งานเยอะเลยไม่ค่อยมีเวลาให้ฝ่าย “อีนางร่างอวบ” ทนร่านไม่ไหว เลยออกไปล่าเหยื่อ ตามแหล่งเที่ยวราตรีก็มีผู้ชายให้ชีใช้บริการ พอไปกองถ่ายก็สอยพระเอกขึ้นไปไปกระหน่ำที่ห้องพักโรงแรมอีก“ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิด” สุดท้าย “ลาน้อย” ก็เลย “ตาสว่าง” ด้วยประการฉะนี้

แต่จะไล่ชีออกจากบ้านก็ไม่กล้าเอ่ยปาก เลยต้องใช้วิธีรับงานออกต่างจังหวัดบ่อยๆไม่ค่อยกลับบ้าน

พอนานๆบ่อยๆชีก็เลยต้องเก็บกระเป๋าออกไป

พฤติกรรมทำนองนี้ของชี ที่จริงก็เหมือนกันอย่างนั้นทั้งบ้าน

พี่สาวหล่อนก็เป็น หาแฟนได้เมื่อไหร่เป็นต้องหอบเสื้อผ้าไปอยู่กับผัว

    อย่างนี้เขาเรียกว่า “มั่วโดยสายเลือด” !!!


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นิตยสารทีวีอินไซต์

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์