ยินดีด้วยนะ...โจว ซิง ฉือ

ยินดีด้วยนะ...โจว ซิง ฉือ







วันก่อนได้ข่าวมาว่าพระเอกจากเกาะฮ่องกง ''โจว ซิง ฉือ'' ได้รับการทาบทามจาก ''โซนี่ พิคเจอร์'' ซึ่งเป็นบริษัททำหนังยักษ์ใหญ่ในฮอลลีวู้ดให้มาเป็นโปรดิวเซอร์ทำหนังลุยอเมริกา แถมไม่ใช่หนังเล็กๆ เสียด้วย แต่เป็นหนังฟอร์มยักษ์ตามแต่พ่อหนุ่มโจวจะต้องการ...


เห็นข่าวนี้แล้วรู้สึกเป็นปลื้มครับ แม้ว่านายโจว ซิง ฉือเขาจะไม่ได้มีเลือดเนื้อเชื้อไขเป็นคนสยามเหมือนอย่างเราๆ แต่อย่างน้อยเขาก็เป็นคนเอเชียหัวดำเหมือนกัน และที่สำคัญในบ้านเราก็มีแฟนคลับของเขาอยู่มากพอสมควร (ผมก็คนหนึ่งล่ะ)

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผลงานที่เป็นใบเบิกทางสู่ฮอลลีวู้ดของโจว ซิง ฉือ นั้น มาจากภาพยนตร์เรื่อง The Kung Fu Hustle (คนเล็กหมัดเทวดา) ซึ่งถูกซื้อไปออกฉายทั่วอเมริกาและประสบความสำเร็จทางด้านรายได้ในระดับหนึ่ง แต่ที่ยิ่งกว่าเงินที่ได้รับ คือไอเดียการทำหนังที่แสนกิ๊บเก๋ของนักแสดงชาวฮ่องกงผู้นี้ต่างหาก

ในยุคที่วงการหนังฮอลลีวู้ดเริ่มเข้าสู่ภาวะตีบตันทางด้านไอเดีย จนต้องหันมาแสวงหาหนังจากฝั่งตะวันออกไปรีเมคกันอย่างเป็นล่ำเป็นสันนี้เอง ที่เป็นช่วงที่เจ้ามังกรน้อยอย่างโจว ซิง ฉือ จะได้ผงาดไปสู่แวดวงหนังของประเทศที่ฟู่ฟ่าที่สุดในโลก

แม้จะต้องตามหลังนักแสดงรุ่นพี่อย่าง บรูซ ลี, เฉิน หลง, โจว เหวิน ฟะ ก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะสายเกินไปสำหรับชายวัย  49 ปีที่ขายไอเดียมากกว่าการเสี่ยงเป็นเสียงตายทางด้านร่างกาย

ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้ว เส้นทางของอาโจวกว่าที่จะมายืนอยู่จุดนี้ได้ ก็ต้องบอกว่าสมบุกสมบันไม่ใช่น้อย แม้สมัยที่เข้าวงการใหม่ๆ จะได้ชื่อว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงจาก ภาพยนตร์เรื่อง  Final Justice ส่งเขาเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงเมื่อได้รับรางวัลม้าทองคำ -ไต้หวัน  สาขาดาราสมทบชายยอดเยี่ยม ต่อด้วยงานหนังอีกเพียบ จนได้ขึ้นแท่นหนึ่งในซุปเปอร์สตาร์ของฮ่องกงในช่วงต้นทศวรรษที่  90  

แต่แล้วชีวิตการแสดงอันรุ่งโรจน์ของเขาก็เหมือนจะริบหรี่ลงเมื่อภาวะหนังฮ่องกงเริ่มเข้าสู่ช่วงซบเซา (1996-1999) แม้นักแสดงหนุ่มจะพยายามทดลองงานในแนวทางใหม่ๆ ก็ตาม แต่ก็ต้องยอมแพ้จนหยุดรับงานนาน ถึง 2 ปี

ก่อนที่จะกลับมากับผลงาน Shaolin Soccer (นักเตะเสี้ยวลิ้มยี่) ซึ่งเขาลงมือกำกับฯ และแสดงเอง จนทำรายได้ถล่มทลายทั่วเอเชีย  คว้า 7 ตุ๊กตาทองรวมทั้งภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม และนักแสดงนำยอดเยี่ยม จากนั้นก็ทำให้คนทั่วโลกได้ประจักษ์กับ The Kung Fu Hustle ซึ่งเปรียบเหมือนตั๋วใบสำคัญที่ทำให้เขากำลังจะติดทำเนียบมันสมองแห่งเอเชียที่บุกฮอลลีวู้ดในปัจจุบัน

เห็นเส้นทางของโจว ซิง ฉือ แล้วต้องซูฮกว่าท่านพี่เขามากด้วยฝีมือและประสบการณ์จริงๆ ซึ่งก็เป็นที่น่าเสียดายไม่น้อยสำหรับวงการหนังในบ้านเรา ที่วัฏจักรแตกต่างจากของเขาเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในเรื่องของอายุการทำงาน 

บ้านเรานักแสดงยิ่งแก่ยิ่งงานหด แต่เด็กคนไหนสดๆ ซิงๆ งานเยอะ-บิหาย !...


ฟอร์แบง



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์